เผยภาพน่าตกใจ! หมาจิ้งจอกโดนขุนจนอ้วนเผละผิดธรรมชาติ ก่อนเชือดเอาขนทำเสื้อผ้า!

สำนักข่าว mirror เผยแพร่ภาพน่าตกใจของสุนัขจิ้งจอกจากฟาร์มขนสัตว์แห่งหนึ่งในประเทศฟินแลนด์ หลังพบว่าสุนัขจิ้งจอกถูกขุนให้อ้วนจนมีน้ำหนักตัวมากกว่าสุนัขจิ้งจอกปกติถึง 5 เท่า เพื่อเพิ่มปริมาณขน ก่อนจะถูกฆ่าทิ้งเพื่อนำขนไปใช้ผลิตเสื้อผ้า

ขณะที่สุนัขจิ้งจอกในฟาร์มบางตัวที่พบมีน้ำหนักตัวมากถึง 19 กิโลกรัม จากปกติที่จะมีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 3.5 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งความหายนะดังกล่าวมาจากการเพาะพันธุ์ด้วยการคัดเลือกยีนให้มีขนาดตัวใหญ่ ก่อนจะเข้ากระบวนการขุนให้อ้วนด้วยอาหารไขมันสูงและยังถูกขังเอาไว้ในกรงแคบๆจ้าหน้าที่จากองค์กร Humane Society International (HSI) ซึ่งเป็นกลุ่มพิทักษ์สัตว์และต่อต้านการใช้ขนสัตว์เป็นเครื่องนุ่งห่ม เปิดเผยว่า การค้นพบครั้งนี้เป็นเรื่องน่าตกใจอย่างยิ่งที่สัตว์สวยงามอย่างสุนัขจิ้งจอกต้องตกอยู่ในสภาพน่าสลดใจ ไม่สามารถเดินได้หรือแม้แต่จะมองเห็น จากผลพวงของอุตสาหกรรมจากขนสัตว์ซึ่งเป็นธุรกิจที่แสดงหาแต่ผลกำไรโดยไม่สนใจต่อผลกระทบอื่นใด โดยเฉพาะสัตว์ที่ใช้เป็นเครื่องมือ

โดยจากข้อมูลพบว่าต้องใช้สุนัขจิ้งจอกขนาดตัวปกติประมาณ10- 20 ตัว ในการทำเสื้อโค้ท รวมทั้งหมวกฮู้ดและแจ็คเก็ต ขณะที่ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาพบว่ามีการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่ทำจากขนสัตว์จากฟินแลนด์มายังสหราชอาณาจักร มูลค่ามหาศาลกว่า 2.5 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 107 ล้านบาท แม้ทางการของสหราชอาณาจักรจะสั่งห้ามทำฟาร์มขนสัตว์ไปตั้งแต่ปีพ. ศ. 2543 แต่การนำเข้ากลับยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทางองค์กรเชื่อว่าการกระตุ้นเตือนด้วยภาพของสัตว์ที่ถูกเลี้ยงอย่างทารุณจะเน้นย้ำให้ผู้บริโภคฉุกคิดก่อนจะตัดสินใจซื้อเครื่องนุ่งห่มที่ทำจากขนสัตว์