สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมว่า วัยรุ่นชาวจีนเสียชีวิตหลังจากเข้ารับการบำบัดอาการติดอินเตอร์เน็ตที่ศูนย์บำบัดใกล้กับเมืองเหอเฟย มณฑลอานฮุย ประเทศจีน ได้ไม่ถึง 48 ชั่วโมง โดย จีนถือเป็นประเทศแรกที่มีการจัดตั้งศูนย์บำบัดผู้ติดอินเตอร์เน็ต โดยประเทศจีนถือว่าเป็นประเทศที่มีวัยรุ่นชายหลายล้านคนที่ใช้เวลาเกือบทั้งวันอยู่กับการออนไลน์
วัยรุ่นจีนดับหลังเข้ารับการบำบัดอาการติดอินเตอร์เน็ต พ่อแม่กังขา
ข่าวระบุว่า พ่อและแม่ของนายหลี่ อ้าว วัย 18 ปี ได้พยายามทำทุกวิถีทางเท่าที่จะนึกได้เพื่อรักษาอาการติดอินเตอร์เน็ตของลูกชาย ไม่ว่าจะเป็นการชักชวนให้ทำธุรกิจของครอบครัว ยุยงให้เข้าร่วมในกองทัพ และพาไปเที่ยวทั่วประเทศ แต่ทั้งหมดนี้กลับไม่ได้ผล จึงยอมจ่ายเงิน 22,800 หยวน หรือราว 113,000 บาท เพื่อเข้ารับการรักษาตัวที่ศูนย์บำบัดแห่งนี้ โดยพ่อแม่ของนายหลี่เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี เมื่อวันที่ 13 สิงหาคมว่า
ทางศูนย์บำบัดให้คำมั่นว่าจะใช้ทั้งวิถีการรักษาทางจิตใจ และการฝึกทหารร่วมกัน ส่วนสาเหตุของการตายของนายหลี่ยังคงไม่รู้ว่าเกิดจากเหตุใด โดยทางศูนย์ได้เรียกพ่อแม่ของนายหลี่ไปพบหลังจากเพิ่งส่งลูกไปได้เพียงแค่วันครึ่งเท่านั้น เพื่อแจ้งว่านายหลี่อยู่ในห้องฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม เมื่อไปถึงโรงพยาบาล ร่างของนายหลี่ถูกนำไปยังห้องเก็บศพแล้ว
นางหลิว ตงเม่ย ผู้เป็นแม่เล่าให้ซีซีทีวีฟังว่า ครูที่ศูนย์บำบัดบอกว่ารูปแบบการสอนเป็นไปอย่างทะนุถนอม และไม่เคยทุบตีเด็กหรือทำร้ายร่างกายเด็ก แต่เมื่อเห็นร่างไร้วิญญาณของลูกชายกลับพบว่ามีรอยฟกช้ำอยู่ทั่วตัวทั้งที่แขนและขา จึงอยากให้ทางการเข้ามาตรวจสอบและค้นหาความจริงเกี่ยวกับการตายของลูกชาย
ขณะที่ซีซีทีวีรายงานว่า ศูนย์บำบัดแห่งนี้ไม่มีใบอนุญาตในการประกอบการและเคยถูกรัฐบาลท้องถิ่นสั่งให้หยุดการให้บริการไปแล้วหลายครั้ง โดยผู้บริหารของศูนย์บำบัดถูกตำรวจกักขังตัวไว้แล้ว ส่วนเด็กๆที่อยู่ที่ศูนย์อีก 20 คนก็ได้ให้ผู้ปกครองมารับกลับไปทั้งหมด
ทั้งนี้ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้ร่างกฎหมายเกี่ยวกับศูนย์บำบัดผู้ติดอินเตอร์เน็ต ระบุว่าห้ามมีการใช้เครื่องช็อร์ตไฟฟ้า หรือการทุบตี นอกจากนี้ ยังมีกฎหมายห้ามเยาวชนเล่นเกมออนไลน์ตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนถึง 8 โมงเช้า