ชาวอเมริกันชาตินิยมกว่าร้อยคนยกขบวนชุมนุมประท้วงที่มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย หลังทราบแผนการทำลายอนุสาวรีย์ของนายพลโรเบิร์ต อี ลี แห่งชาร์ล็อตส์วิลล์ ผู้นำกองกำลังสนับสนุนการใช้ทาสในรัฐภาคใต้ในช่วงสงครามกลางเมือง
ผู้สังเกตการณ์ระบุว่า กลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นชายผิวขาว อายุระหว่าง 20 - 30 ปี โดยเริ่มรวมตัวกันในช่วงหัวค่ำของวันที่ 11 สิงหาคม ที่สวนสาธารณะเนมเลส ก่อนจะขยายใหญ่ขึ้น พร้อมจุดคบเพลิงและเดินขบวนเข้าไปยังมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย ในระหว่างที่ชุมนุมยังมีการตะโกนว่า "คุณจะไล่เราออกไปไม่ได้" และ "ยิวจะเข้ามาแทนที่เราไม่ได้" รวมทั้งมีการแสดงสัญลักษณ์ของกลุ่มคลู คลักซ์ แคลน ซึ่งเป็นกลุ่มเหยียดเชื้อชาติที่ก่อตั้งในช่วงหลังสงครามกลางเมือง ราวปี 1865 ไม่ว่าจะเป็นการจุดคบเพลิงและตะโกนว่า "เลือดและธุลีดิน" และ "หนึ่งกลุ่มคน หนึ่งชาติ ฆ่าผู้อพยพซะ"
อย่างไรก็ตาม เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมาถึงลานหน้าอนุสาวรีย์โธมัส เจฟเฟอร์สัน ในมหาวิทยาลัย ก็ได้ปะทะกับฝ่ายต่อต้านผู้ชุมนุม จนกระทั่งเหตุการณ์บานปลาย กลายเป็นความรุนแรงในที่สุด ก่อนที่ตำรวจจะมาควบคุมสถานการณ์และให้ผู้ชุมนุมดับคบเพลิง และค่อยๆ สลายตัวออกไป ทว่าในเช้าวันที่ 12 สิงหาคม ขณะที่ผู้ชุมนุมกำลังแยกย้ายนั้น กลับเกิดอุบัติเหตุรถยนต์พุ่งชนผู้ชุมนุม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และผู้บาดเจ็บอีก 19 คน
จากเหตุการณ์นี้ ผู้ชุมนุมถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากประชาชนและนักการเมืองท้องถิ่น โดยนายไมค์ ซิกเนอร์ นายกเทศมนตรีของเมืองชาร์ล็อตส์วิลล์ เรียกการชุมนุมครั้งนี้ว่าเป็นขบวนพาเหรดของความเกลียดชัง ความบ้าคลั่ง การเหยียดเชื้อชาติ และการขาดขันติธรรม รวมทั้งประณามการชุมนุมครั้งนี้ว่าเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย
ชาร์ล็อตส์วิลล์เป็นเมืองสายเสรีนิยม โดยกว่า 86% ของเมืองนี้เลือกนางฮิลลารี คลินตัน เป็นประธานาธิบดีในการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว และตกเป็นเป้าโจมตีของกลุ่มคนขาวชาตินิยม หลังจากที่สภาเมืองโหวตให้มีการทำลายอนุสาวรีย์ของนายพลลี นอกจากนี้ ยังกล่าวกันว่า การที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ จุดประกายให้ฝ่ายขวาจัดมีอำนาจ เนื่องจากนโยบายสนับสนุนคนขาวในสหรัฐฯ ของนายทรัมป์นั่นเอง
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
