องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐ (โนอา) คาดการณ์ว่า มหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลแคริบเบียนมีแนวโน้มเกิดพายุขนาดใหญ่ราว 14-19 ลูก ซึ่งมีความรุนแรงตั้งแต่พายุหมุนเขตร้อนไปจนถึงเฮอริเคน มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือน พ.ค.ที่ 11-17 ลูก
"ฤดูกาลนี้จึงมีโอกาสที่จะเกิดพายุมากที่สุด และมากที่สุดตั้งแต่ปี 2010" โนอา ระบุ
นอกจากนี้ พายุ 5-9 ลูก จากทั้งหมด 14-19 ลูกที่คาดการณ์ไว้ มีแนวโน้มจะรุนแรงถึงระดับเฮอริเคน ที่มีความเร็วลม 178-208 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ปัจจุบันมีพายุเริ่มก่อตัวแล้ว 6 ลูก ซึ่งมีความรุนแรงเพียงพอจะมีชื่อเป็นของตัวเอง โดยศูนย์เฮอริเคน แห่งชาติสหรัฐคาดการณ์ว่ามีโอกาส 40% ที่พายุดังกล่าวจะเข้าฝั่งสหรัฐภายในสุดสัปดาห์นี้
เกอร์รี เบลล์ หัวหน้านักพยากรณ์อากาศฝ่ายเฮอริเคนของโนอา กล่าวว่า อุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลที่สูงขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยระหว่าง 1-2 องศาฟาเรนไฮต์ ทำให้เกิดพายุขนาดใหญ่มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่แนวโน้มการเกิดเอลนินโญ ซึ่งจะทำให้เกิดพายุในแอตแลนติกน้อยลงกว่าปกติ ยังลดน้อยลง รวมถึงทิศทางลมวินเชียร์และลมสินค้ายังพัดมาจากชายฝั่งตะวันตกของแอฟริกา เสริมให้เกิดพายุในมหาสมุทร