วันที่ 29 ก.ค. เดลี่เมล์ของอังกฤษรายงานคดีหญิงวัยใสในประเทศจีนตัดสินใจทำแท้งขณะตั้งครรภ์ แต่กลับต้องช็อกเมื่อทราบว่า นางพยาบาลที่ทำแท้งให้เก็บทารกในครรภ์ของตนไว้และเอาไปขายให้ญาติของนางพยาบาล
เหตุเกิดขึ้นเมื่อปี 2556 น.ส.หลี่ลี่ อายุ 18 ปี ในเวลานั้น จากเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ประเทศจีน พบว่าตัวเองตั้งครรภ์และไม่ได้บอกใคร จนผ่านมา 35 สัปดาห์ พี่ชายจึงพาไปทำแท้งที่คลินิกเถื่อน โดยทางคลินิกบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อย และน.ส.หลี่ลี่จ่ายเงินให้
นางเหลียง เสี่ยวหัว นางพยาบาลที่ทำแท้ง ให้การรับสารภาพหลังถูกจับกุมว่า รู้สึกทารกในครรภ์ยังมีโอกาสรอดชีวิต เพราะได้ยินเสียงร้อง จึงเอาทารกออกมาจากถุงพลาสติกเพื่อช่วยชีวิต และให้ออกซิเจนและพร้อมน้ำดื่ม โดยหลบซ่อนตัวอยู่ในตู้เก็บของ
แต่แล้วมีคนได้ยินนางพยาบาลคุยกับใครบางคนและถามว่า ต้องการทารกหรือไม่ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพศชายหรือหญิงกันแน่ จนกระทั่งขายทารกให้ลูกพี่ลูกน้องของนางพยาบาลและนำทารกกลับไปบ้าน แต่แล้วชาวบ้านในพื้นที่ก็สงสัยและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
3 วัน หลังจากทำแท้ง น.ส.หลี่ลี่ก็ได้ยินข่าวลือว่า ทารกที่ทำแท้งไปยังไม่ตายและถูกขายไป จึงตระเวนไปถามหาที่อยู่ของทารกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปเยือนสาธารณสุขหลายที่ และกรมวางแผนครอบครัว สำนักงานสาธารณสุข และสำนักงานวางแผนครอบครัวหลายแห่ง แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ เรื่องลูกของเธอ
ต่อมาปี 2557 นางเหลียง เสี่ยวหัว ถูกจับกุมฐานต้องสงสัยว่าทำแท้งให้ผู้อื่น ถูกตัดสินจำคุก 2 ปี ส่วนน.ส.หลี่ลี่ฟ้องเรียกค่าชดเชยทั้งค่ารักษาพยาบาลและทนายความรวมแล้ว 1.1 ล้านหยวน หรือราว 5.4 ล้านบาท แต่ไม่ได้รับค่าชดเชยใดๆ แม้จะยื่นอุทธรณ์ก็ไม่ได้ผล
ส่วนสำนักงานความมั่นคงสาธารณะในเมืองหงซาน เขตมองโกเลียใน ผู้รับผิดชอบการดำเนินคดีดังกล่าว สรุปว่า ทารกถูกทำแท้งไปแล้ว แต่คำร้องดังกล่าวก็ยังไม่มีการยื่นฟ้อง ทำให้หัวหน้าและเจ้าหน้าที่รวม 4 คน มีความผิดฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ แต่ไม่มีการส่งฟ้องใดๆ
ทั้งนี้ ศาลสิ้นสุดการพิจารณาคดีทั้งหมดในเดือน พ.ค.2560 ที่ผ่านมา