20 มิ.ย. เว็บไซต์เดลี่เมล์ตีแผ่เรื่องราวทารุณสุนัขที่เกิดขึ้นบนเกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ว่ามีการลักลอบขายเนื้อสุนัขให้กับชาวต่างชาติที่มาเที่ยว พร้อมกับเบื้องหลังการฆ่าสุนัขเพื่อทำเนื้อที่เสี่ยงต่อสุขภาพ
แอนนิมอลส์ ออสเตรเลีย กลุ่มอนุรักษ์สัตว์สัญชาติออสซี่ เปิดเผยภาพระหว่างที่คนขายสะเต๊ะชาวอินโดนีเซียกำลังขายเนื้อไก่สะเต๊ะ พร้อมกับยืนยันว่าไม่ใช่เนื้อสุนัขให้กับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย ที่ชายหาดดับเบิลซิกซ์ ใกล้กับย่านเซมินยัก
แต่เมื่อกลุ่มอนุรักษ์สัตว์ดังกล่าวได้เข้าไปสอบถามผู้ขายสะเต๊ะขณะที่กำลังเดินไปที่กล่องใส่สะเต๊ะที่มีรูปสุนัขบริเวณท้ายรถมอเตอร์ไซค์เกี่ยวกับเนื้อที่ใช้ทำสะเต๊ะ พร้อมได้รับคำตอบว่าเนื้อดังกล่าวคือเนื้อสุนัข ไม่ใช่เนื้อไก่แต่อย่างใด
นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยจากการทำรายงานเจาะลึกของนายลุก หนึ่งในผู้ที่เจาะลึกเรื่องการนำเนื้อสุนัขมาประกอบอาหารจากสำนักข่าวเอบีซีพบว่า สุนัขถูกทุบตีและแขวนคอไว้จนกระทั่งสิ้นลมหรือหยอดยาพิษลงคอ และที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือการที่นักท่องเที่ยวต้องกินสะเต๊ะเนื้อสุนัขโดยที่ไม่เต็มใจ
"บรรดานักท่องเที่ยวชาวออสซี่ชอบกินสะเต๊ะมาก แต่หากพวกเขารู้ว่าเนื้อสะเต๊ะทำจากสุนัข เหล่านักท่องเที่ยวจะต้องรู้สึกไม่ดีอย่างแน่นอน" ลุกกล่าว
ด้านน.ส.ลิน ไวต์ หัวหน้าหน่วยสืบสวนจากแอนนิมอลส์ ออสเตรเลียยังระบุเพิ่มว่ายาพิษที่ฆ่าสุนัขและเอาเนื้อสุนัขมาทำเป็นอาหารมีความเสี่ยงอย่างชัดต่อสุขภาพของผู้ที่กินเข้าไป มากกว่านั้นนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าตัวอักษร RW ที่ติดอยู่ตามร้านอาหารคือการบ่งบอกว่าร้านนี้จำหน่ายอาหารเนื้อสุนัข
ตามความเชื่อของชาวบาหลีที่ว่าเนื้อสุนัขเป็นอาหารทางเลือกเพื่อสุขภาพ และยังเชื่ออีกว่าเป็นการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศให้กับบรรดาท่านชาย นอกจากนี้เนื้อสุนัขในบาหลียังมีราคาถูกกว่าเนื้อสัตว์อื่นๆ ในท้องตลาดอีกด้วย