เครื่องบินรบของสหรัฐฯ โจมตีเครื่องบินรบของกองทัพรัฐบาลซีเรียจนตกเมื่อวันอาทิตย์ หลังจากกองทัพซีเรียทิ้งระเบิดโจมตีกองกำลังกบฏฝ่ายต่อต้านรัฐบาลที่สหรัฐฯ หนุนหลัง...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุเครื่องบินรบของสหรัฐฯ ยิงเครื่องบินเจ็ตของกองทัพรัฐบาลซีเรียจนตก ในพื้นที่ทางใต้ของเมืองรักกา โดยรัฐบาลวอชิงตันอ้างว่า เครื่องบินเจ็ตลำนี้ไปทิ้งระเบิดใกล้กับจุดที่กลุ่มกบฏต่อต้านรัฐบาลที่สหรัฐฯ หนุนหลังปักหลักอยู่ ขณะที่รัฐบาลซีเรียระบุว่า เครื่องบินของพวกเขาถูกยิงตกระหว่างบินทำภารกิจต่อต้านกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอซิส)
กองทัพซีเรียระบุในแถลงการณ์ว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่ 18 มิ.ย. ใกล้หมู่บ้านที่ชื่อว่า ราซาฟาห์ ชี้เป็นการโจมตีอย่างโจ่งแจ้งที่มีเป้าหมายเพื่อบ่อนทำลายความพยายามของกองทัพ ในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายทั่วประเทศ และเกิดขึ้นในขณะที่กองทัพซีเรียและพันธมิตรกำลังมีความคืบหน้าอย่างชัดเจนในการต่อสู้กับกลุ่มไอซิส
ในเวลาต่อมา กองบัญชาการกลางของสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ระบุว่า เครื่องบินเจ็ตของซีเรียถูกยิงตกภายใต้หลักการป้องกันตนเองแบบรวมกลุ่ม โดยก่อนหน้านี้กองกำลังฝ่ายรัฐบาลโจมตีเมืองทางใต้ของเมืองทับกา ที่กลุ่ม ‘กองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย' (เอสดีเอฟ) ฝ่ายกบฏต่อต้านรัฐบาลควบคุมอยู่ ทำให้มีนักรบได้รับบาดเจ็บหลายคน และทำให้พวกเขาต้องหนีออกจากเมือง แต่เครื่องบินของกองกำลังร่วมหยุดการโจมตีเบื้องต้นได้
แต่หลังจากนั้น เครื่องบินรบ ซู-22 ของซีเรียทิ้งระเบิดใกล้ที่มั่นของกลุ่มเอสดีเอฟอีก พวกเขาจึงส่งเครื่องบิน ‘เอฟ/เอ-18อี ซุปเปอร์ ฮอร์เน็ต' จัดการกับเครื่องบินลำนี้ทันที อย่างไรก็ดี กองกำลังร่วมไม่ได้ต้องการหาเรื่องต่อสู้กับรัฐบาลซีเรีย, รัสเซีย หรือกองกำลังฝ่ายรัฐบาลซีเรีย แต่พวกเขาจะไม่ลังเลที่จะป้องกันตนเองและกองกำลังพันธมิตรจากภัยคุกคามใดๆ
ทั้งนี้ ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมากองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ ยกระดับปฏิบัติการทิ้งระเบิดทางอากาศในพื้นที่ภาคเหนือของซีเรียและที่เมืองรักกา ทำให้กองกำลังกบฏที่พวกเขาหนุนหลังสามารถเข้าปิดล้อมเมืองรักกาที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของกลุ่มไอซิส และสามารถยึดพื้นที่จากไอซิสได้หลายเขต.