สุดยอด!!!! หนุ่มเคนยาใส่แต่ถุงเท้า ทำลายสถิติวิ่งฮาล์ฟมาราธอน ในเอสโตเนีย (มีคลิป)

หลังจากเคยมีข่าวที่น่าตื่นเต้น เมื่อสาวชาวพื้นเมืองเม็กซิโกที่ใส่กระโปรงและรองเท้าแตะ เข้าเส้นชัยในการแข่งวิ่ง 50 กม. เป็นคนแรกไปแล้ว ดูเหมือนว่ายังมีคนอื่นอีกที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ใจสำคัญกว่าอุปกรณ์

Ibrahim Mukunga Wachira ชายหนุ่มนักวิ่งมาราธอนชาวเคนยาวัย 27 ปี ชนะการแข่งขันวิ่งมาราธอนในระยะทาง 23 กิโลเมตร ในประเทศเอสโตเนียโดยปราศจากรองเท้าวิ่ง มีเพียงแค่ถุงเท้าคู่เดียวเท่านั้น และที่สำคัญเขาได้ทำลายสถิติการทำเวลาวิ่งที่ดีที่สุด ในการแข่งขัน Tartu Half-Marathon ครั้งที่ 35 ไว้อีกด้วย

Ibrahim บอกว่าการลงแข่งครั้งนี้ด้วยถุงเท้าเปล่าเพียงคู่เดียวไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดเอาไว้เลย เมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา เขาเดินทางไปร่วมการแข่งขันวิ่งมาราธอนและมายังจุดปล่อยตัวพร้อมด้วยรองเท้าวิ่งคุณภาพสูงของเขา แต่เขาฝากคนอื่นไปเก็บเอาไว้ก่อนเริ่มแข่งขันและไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ เขาได้พยายามบอกปัญหาที่เกิดขึ้นให้แก่ผู้จัดงานให้ทราบแล้ว และผู้จัดงานก็พยายามจะช่วยหาทางออกด้วยการหารองเท้าที่มีขนาดตรงกับเท้าของเขา แต่ก็ไม่มีเลย เขาจึงมีเพียง 2 ทางเลือกคือ ออกจากการแข่งขัน หรือวิ่งด้วยแค่ถุงเท้าที่ใส่อยู่ และแน่นอนเขาเลือกข้อหลัง

"ในตอนแรกๆ มันอาจจะยากนิดหน่อย โดยเฉพาะช่วยที่วิ่งบนพื้นยางมะตอย แต่พอวิ่งไปเรื่อยๆมันจะเริ่มดีขึ้น" เขาให้สัมภาษณ์

ในช่วงกิโลเมตรที่ 11 ของการแข่งขัน Ibrahim ก็วิ่งแซงเป็นอันดับหนึ่งและเข้าเส้นชัยก่อนอันดับที่ 2 ถึง 4 นาทีเลยทีเดียว เขาใช้เวลาในการวิ่งมาราธอนครั้งนี้ 1 ชั่วโมง 13 นาที 23 วินาที ซึ่งเป็นสถิติใหม่ที่ดีที่สุดของการแข่งขัน Tartu Half-Marathon ตั้งแต่เคยมีมาอีกด้วย หลังจบการแข่งขัน รูปภาพของ Ibrahim ที่นั่งอยู่หน้าเส้นชัยด้วยท่าทางเหนื่อยล้าพร้อมด้วยถุงเท้าที่ขาดชำรุดถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกโซเชี่ยลประเทศเอสโตเนียและสื่อข่าวต่างๆ เป็นเวลาเกือบเดือน และในตอนนี้เขากลายเป็นคนดังไปเสียแล้ว

"ตอนที่ผมวิ่ง ผมลืมเรื่องรองเท้าไปเลย ผมแค่วิ่งไปเรื่อยเสมือนว่าผมใส่รองเท้าอยู่ ผมพูดกับตัวเองตลอดว่าผมใส่รองเท้าอยู่ และผมจะต้องไปต่อให้ถึงเส้นชัย" Ibrahim พูดในคลิปวิดีโอสัมภาษณ์

เมื่อ 5 ปีที่แล้ว Ibrahim Mukunga Wachira ยังเป็นแค่ชาวไร่ธรรมดา ช่วยครอบครัวในไร่ชาที่ตีนเขา Mount Kenya และอาศัยอยู่ในกระท่อมเล็กๆ เท่านั้น เขาเริ่มต้นฝึกซ้อมเพื่อเป็นนักวิ่งระยะไกล แต่ด้วยฐานะทางครอบครัว จึงทำให้เขายังคงต้องทำงานอย่างหนักในไร่ชาเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว

โชคชะตาของเขาเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับเพื่อนนักวิ่งอีกคนหนึ่งชื่อ Tiidrek Nurme จากประเทศเอสโตเนีย แม้จะสื่อสารกันอย่างลำบาก แต่เขาเห็นความโอกาสในตัวของ Ibrahim ว่าเขาจะต้องทำได้อย่างแน่นอนจึงได้ชวนเขาย้ายมาอยู่ด้วยกันที่เอสโตเนียเพื่อฝึกซ้อมเป็นนักวิ่งมืออาชีพ พวกเขาเป็นเพื่อนกันมา 5 ปี และได้ฝึกการวิ่งด้วยกันเป็นเวลา 4 ปีมาแล้ว

Ibrahim เดินทางไปมาระหว่างเอสโตเนียและเคนยาอยู่ตลอด แต่เขาก็ไม่ได้ลำบากสำหรับเขา เพราะหลังจากที่เขาชนะการแข่งขันวิ่งในยุโรปหลายรายการ เขาสามารถสร้างรายได้มากกว่าชาวเคนย่าทั่วไปอยู่มากมายและสามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้อย่างสบายๆ