ชวนไปทำสปา-ขังในห้องมืด บังคับโหดทารุณเหยื่อสาวซ้ำ หักเงินหัวคิว ส่งขายทั่วมะกัน
สหรัฐทลายแก๊งค้ากามข้ามชาติล็อกแม่เล้าชาวไทยลวงสาวนับร้อยค้ากามทั่วสหรัฐ จับกุมผู้ต้องหาชาวไทย-สหรัฐร่วมขบวนการอีกเพียบ แฉพฤติกรรมแสบลวงหญิงสาวไปทำงานมีรายได้ดี โดยให้ศัลยกรรม-เสริมหน้าอก แต่เมื่อมาถึงกลับโดนบังคับ ค้ากาม ใช้หนี้ค่าพามาทำงานนับล้านบาท ถ้าไม่ทำตาม-บริการลูกค้าไม่ดีจะโดนทารุณ
เว็บไซต์ข่าวชิคาโกซันไทมส์ รายงานการจับกุมแก๊งค้ามนุษย์ชาวไทยในสหรัฐอเมริกา ในจำนวนนี้มี น.ส.วิไลวรรณ พิมคาลี สาวชาวไทย เป็นผู้เปิดสถานบริการในเมืองชิคาโก และทำหน้าที่เป็น "มาม่าซัง" รวมอยู่ด้วย โดยถูกเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงแห่งมาตุภูมิจับกุมดำเนินคดีร่วมกับบุคคลอื่น ในข้อหาค้ามนุษย์หลอกลวงนำสาวไทยนับร้อยคนมาขายบริการในหัวเมืองใหญ่ เช่น ลอสแองเจลิส ลาสเวกัส ฟีนิกซ์ มินเนอาโปลิส วอชิงตัน ฮูสตัน ดัลลัส และชิคาโก เป็นต้น
สำหรับการตั้งข้อหาบุคคลที่เกี่ยวข้อง 21 รายทั่วสหรัฐ มีขึ้นเมื่อวันที่ 25 พ.ค. ในจำนวนนี้ 6 คน อยู่ในเมืองชิคาโก และเกี่ยวข้องกับการลักลอบค้าประเวณี เจ้าหน้าที่สำนักงานอำเภอคุก ร่วมกับคณะสอบสวนของหน่วยงานความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ บุกปิดสถานบริการของคนไทย และจับกุมผู้เกี่ยวข้อง 6 ราย ที่ถูกตั้งข้อหา ได้แก่ นายแมตธิว มินตซ์ อายุ 25 ปี น.ส.วิไลวรรณ พิมคาลี อายุ 38 ปี น.ส.กันยรัตน์ ชัยวิรัติ อายุ 50 ปี และนายเธาว์ชรินทร์ รัตนมงคลกุล อายุ 34 ปี ทั้งหมดอยู่ในชิคาโก ส่วนนายโมฮิต แทนดอน อายุ 37 ปี อยู่เขตเบอร์ริดจ์ และนายริชาร์ด อเล็กซานเดอร์ อายุ 52 ปี อยู่เขตเดคาลบ์
สำหรับน.ส.วิไลวรรณทำหน้าที่เป็น มาม่าซัง และเป็นผู้เช่าอพาร์ตเมนต์ให้เหยื่อค้าบริการอาศัยอยู่ โดยไปรับหญิงเหล่านี้ที่สนามบิน เจ้าหน้าที่เชื่อว่า น.ส.วิไลวรรณแต่งงานหลอกๆ กับนายอเล็กซานเดอร์ ผู้เคยเป็นลูกค้าซื้อบริการ เพื่อที่จะได้กรีนการ์ดและทำงานอย่างถูกกฎหมายในสหรัฐ ส่วน นายอเล็กซานเดอร์ นายแทนดอน และ นายมินตซ์ ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวกหรือผู้ให้เช่าอพาร์ตเมนต์
สำนวนการสั่งฟ้องระบุว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดหลอกลวงเหยื่อด้วยการชักชวนมาทำงานที่สหรัฐ อ้างมีรายได้ดี หากใครหลงเชื่อจะถูกชักจูงให้ไปทำศัลยกรรมและเพิ่มขนาดหน้าอก แต่เมื่อไปถึงสหรัฐแล้ว กลับถูกคิดค่านายหน้าและเช่าห้องโหด เช่น ต้องทำงานใช้หนี้ค่าหัวคิวและค่าเดินทาง 40,000-60,000 ดอลลาร์ หรือราว 1.4-2.1 ล้านบาท รวมทั้งถูกบังคับให้ขายบริการทางออนไลน์ สาวคนไหนให้บริการไม่ดีหรือมีคำวิจารณ์ด้านลบจากลูกค้าจะถูกตบตี ราคาขายบริการแต่ละครั้งจะอยู่ที่ 200 ดอลลาร์ หรือราว 7,000 บาท โดยแม่เล้าจะเก็บค่าหัวคิวร้อยละ 40
จากการสอบสวนวงจรค้ากามดังกล่าวตั้งแต่ปี 2552 พบมีเงินหลายล้านดอลลาร์โอนเข้ามายังบัญชีธนาคารในประเทศไทย เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐสังเกตได้ บุคคลในวงจรค้ากามเหล่านี้ใช้ระบบธนาคารที่ไม่เป็นทางการและลอบเปิดขายบริการผ่านทางโฆษณาที่ขึ้นอยู่ในเว็บไซต์ยอดนิยม โดยให้ลูกค้าให้คะแนน ถ้าสาวคนใดได้คะแนนต่ำหรือถูกร้องเรียนจะถูกทำร้าย
ขณะที่สำนักข่าวเอพีระบุว่า การตั้งข้อหาครั้งล่าสุดเป็นการขยายผลจากเดือนต.ค.ปี 2559 หลังจากตำรวจสหรัฐจับกุมผู้ต้องสงสัย 17 คน ที่ล่อลวงหญิงสาวจากไทยมาขายบริการทางเพศ ส่งผลให้จำนวนผู้ต้องสงสัยเพิ่มเป็น 38 คน และถือเป็นการดำเนินคดีแก๊งค้าประเวณีที่ใหญ่สุดในประเทศ ตรวจสอบพบเส้นทางการเงินของแก๊งค้าประเวณีมีการส่งกลับมาไทย ด้วยการซุกซ่อนเงินสดไว้ในเสื้อผ้า ตุ๊กตาและของใช้
ด้านน.ส.ปนิดา รซอนกา อัยการประจำศูนย์ความร่วมมือไทย คอมมูนิตี เดเวลอป เมนต์ เซ็นเตอร์ ในนครลอสแองเจลิส เปิดเผยเรื่องราวของเหยื่อคนหนึ่งว่า ตอนแรกเหยื่อคิดว่าจะได้ทำงานเป็นพนักงานร้านสปาที่สหรัฐ แต่พอมาถูกนายหน้าริบหนังสือเดินทางและบอกมีหนี้ราว 1.2 ล้านบาทที่ต้องจ่าย จากนั้นถูกบังคับค้าบริการ
ด้านเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศของไทยระบุว่า เจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก ติดต่อประสานงานกับอัยการสูงสุดรัฐมินเนโซตา เพื่อตรวจสอบรายละเอียดเรื่องนี้ เบื้องต้นทราบเป็นการขยายผลสอบสวนขบวนการค้าหญิงไทยที่มีผู้ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ 17 คน ในจำนวนนี้เป็นคนไทย 7 คน