วันที่ 26 พ.ค. เอเอฟพีรายงานว่า ตำรวจกัมพูชาจับกุมผู้ต้องสงสัย 2 คน เป็นชายและหญิงอาศัยอยู่ในกรุงพนมเปญ ฐานลักลอบค้าอวัยวะมนุษย์ ซื้อไตจากเหยื่อในราคา 5,800 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 198,000 บาท ก่อนส่งไปขายให้ลูกค้าเพื่อผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะที่ประเทศอินเดีย ในราคาสูงถึง 1.36 ล้านบาท
ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีการขายไตอย่างน้อย 10 ครั้ง รวมมูลค่าหลายสิบล้านบาท ก่อให้เกิดความวิตกกังวลว่าสถานการณ์การค้ามนุษย์ในกัมพูชาที่เลวร้ายอยู่แล้วจะยิ่งวิกฤตมากขึ้น
พล.ต.ต.แก้ว ทาง ผู้บังคับการตำรวจหน่วยต่อต้านการค้ามนุษย์ในกรุงพนมเปญ เปิดเผยว่าผู้ต้องสงสัยให้การรับสารภาพว่าค้าอวัยวะมนุษย์ ซึ่งลูกค้าบางส่วนเป็นชาวกัมพูชาแต่เดินทางไปผ่าตัดไตที่อินเดีย เนื่องจากการรับซื้ออวัยวะสำหรับประโยชน์ทางการแพทย์ไม่ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในอินเดีย ขณะที่ผู้ต้องสงสัยและเหยื่อเป็นชาวกัมพูชาเจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องสงสัยขึ้นศาลเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ดำเนินคดีและพิจารณาลงโทษต่อไป
ด้านขแมร์ไทมส์ สื่อของกัมพูชา รายงานเพิ่มเติมในรายละเอียดว่า การจับกุมครั้งนี้มาจากการร้องเรียนของหญิงคนหนึ่งโทร.ไปฟ้องยังรายการวิทยุเอบีซี ว่ามีผู้เสนอจ่ายเงินให้ 5,800 ดอลลาร์ หรือราว 2 แสนบาท กับคนที่จะขายไตที่ต้องไปผ่าตัดที่อินเดีย โดยจะได้รับเงินหลังจากกลับมาแล้ว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดต่อหญิงคนดังกล่าว ซึ่งนำไปสู่การจับกุม อือ ลัต อายุ 38 ปี ที่เขตปอสันชัย ในชุมชนโฉมเชา และนายลัก ฮอง เมียง อายุ 34 ปี ที่ชุมชนโตนเล บาสัก ส่วนบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้องหนีไปได้ จากการสอบสวนพบว่า นายฮองเมียงทำหน้าที่ปลอมเอกสาร ในที่เกิดเหตุ ตำรวจยังยึดพาสปอร์ตได้ 12 เล่ม เป็นคนที่จะขายไต
ทั้งนี้ ในปี 2558 ศาลกัมพูชาตัดสินจำคุกสมาชิกแก๊งค้าอวัยวะที่ลักลอบขายไตให้กับลูกค้าในไทย เป็นเวลานาน 10-15 ปี ขณะที่องค์การอนามัยโลก ระบุว่ามีการซื้อขายอวัยวะมนุษย์ในตลาดมืดทั่วโลกมากกว่า 10,000 ครั้งในแต่ละปี
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
