สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เตรียมจัดประชุมฉุกเฉินในวันอังคารนี้ หลังจากเกาหลีเหนือเพิ่งทดสอบจรวดขีปนาวุธครั้งล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่าอาจเป็นขีปนาวุธแบบใหม่ที่มีพิสัยทำการไกลถึง 4,500 กม.
รายงานข่าว ระบุว่า สหรัฐ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ได้ร้องขอให้มีการประชุมฉุกเฉินว่าด้วยการทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ ซึ่งถูกยิงขึ้นไปในระดับความสูงกว่าครั้งก่อนๆ และไปตกในทะเลญี่ปุ่น ท่ามกลางการคาดหมายว่าขีปนาวุธดังกล่าวอาจเป็นจรวดเชื้อเพลิงเหลวแบบ 2 ตอนรุ่นใหม่ ที่สามารถเดินทางได้ไกลถึง 4,500 กม.
ด้านนักวิเคราะห์ ระบุว่า หากการทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุดนี้ กระทำในระดับความสูงปกติ อาจเดินทางได้ไกลถึง 4,500 กม. ซึ่งหมายความว่าจะอยู่ในพิสัยที่สามารถคุกคามดินแดนในการปกครองของสหรัฐ เช่น เกาะกวม หรืออาจไปได้ไกลกว่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เกาหลีเหนือไม่เคยทำได้มาก่อน
สำหรับ เกาะกวม อยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ถือเป็นหนึ่งในดินแดนในการปกครองของสหรัฐ และมีฐานทัพสหรัฐตั้งอยู่ อยู่ห่างจากเกาหลีเหนือราว 3,400 กม. ซึ่งก่อนหน้านี้เชื่อกันว่าจรวดที่ดีที่สุดที่เกาหลีเหนือมีอยู่นั้นคือ The Musudan สามารถโจมตีได้ในระยะไกลสุดคือ 3,000 กม.
ขณะที่ ทำเนียบขาว ออกแถลงการณ์ว่า การทดสอบขีปนาวุธครั้งนี้ของเกาหลีเหนือ คือ สัญญาณว่าทุกประเทศควรเพิ่มมาตรการลงโทษที่รุนแรงขึ้นต่อเกาหลีเหนือ พร้อมระบุว่าดูเหมือนการทดสอบจรวดขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ เกิดขึ้นใกล้กับอาณาเขตของรัสเซียมากกว่าของญี่ปุ่น ซึ่ง นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ คิดว่ารัสเซียคงจะไม่ชอบใจกับเรื่องนี้
นักวิเคราะห์ มองว่า คำแถลงดังกล่าวของทำเนียบขาว คือ การเรียกร้องขอความร่วมมือจากรัสเซีย ในการต่อต้านภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ