ผู้ที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมมองว่าชัยชนะของนาย"มูน แจ อิน" ผู้นำพรรคประชาธิปไตยแห่งเกาหลีวัย 64 ปี ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำคนใหม่และมีแนวคิดนิยมซ้าย อาจจะทำให้เกาหลีเหนือเป็นฝายได้ประโยชน์ แต่นั่นก็น่าจะทำให้ข้อพิพาทระหว่างเกาหลีเหนือและใต้รวมทั้งพันธมิตรอย่างสหรัฐอเมริกาคลี่คลายลงได้
เกาหลีใต้อยู่ภายใต้การบริหารงานของผู้นำสายอนุรักษนิยมอย่างนายลีมยุง-บัค และนางปาร์คกึน เฮ มาเป็นเวลาเกือบ 1 ทศวรรษ เห็นได้ชัดว่าชัยชนะของมูน แจ อิน ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 60 คือการแสดงออกของประชาชนว่าต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงและเบื่อหน่ายกับผู้นำในระบบเก่าๆที่มีแต่ข่าวพัวพันการทุจริตคอร์รัปชันและการใช้อำนาจในทางมิชอบ
นายมูน แจ อิน ได้เป็นหัวหน้าทีมที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโร มู-ฮุน (ดำรงตำแหน่งระหว่างปีค.ศ. 2546-2551) ที่มีนโยบายเชื่อมความสัมพันธ์อันดีกับเกาหลีเหนือผ่านโครงการให้ความช่วยเหลือและโครงการความร่วมมือทางเศรษฐกิจโครงการเหล่านี้ปัจจุบันอยู่ในภาวะชะงักงันเนื่องจากความสัมพันธ์ที่คลอนแคลนของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้
ประธานาธิบดีคนใหม่จะเริ่มปฏิบัติหน้าที่เทอมแรกซึ่งมีระยะเวลา 5 ปีเลย ไม่ต้องมีวาระเปลี่ยนผ่านอำนาจ 2 เดือนนโยบายหลักของมุน แจ อิน ในช่วงหาเสียงคือการปฏิรูปเพื่อขจัดความเหลื่อมลํ้าไม่เท่าเทียมกันในสังคม และลดทอนอำนาจที่มากเกินไปของตัวประธานาธิบดีเอง นอกจากนี้ เขายังมีนโยบายต่อต้านการคอร์รัปชันและการกระทำทุจริตผ่านการเชื่อมโยงสัมพันธ์ระหว่างนักธุรกิจและ นักการเมือง