เมื่อวันที่ 30 มี.ค. เอเอฟพีรายงานความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศออสเตรเลีย ภายหลังพายุไซโคลนเด็บบี้พัดเข้าถล่มตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. ด้วยความแรงระดับ 4 แม้ต่อมาอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้วและมุ่งหน้าไปทางตะวันตกเฉียงใต้ แต่ยังส่งผลให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง
น้ำท่วมในหลายพื้นที่มีผู้ขอความช่วยเหลืออย่างฉุกเฉินในคืนเดียวกว่า 3,000 ครั้ง แต่สภาพอากาศและน้ำท่วมหลากสร้างความยากลำบากให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่รุดเข้าช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ กรมอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลีย ระบุว่า ปริมาณน้ำฝนที่ตกในช่วงที่ผ่านมานั้นมากเท่ากับปริมาณน้ำฝน 1 เดือน ในพื้นที่ชายฝั่งซันไชน์โคสต์และโกลด์โคสต ขณะที่หน่วยกู้ภัยได้รับรายงานความเสียหายจากพายุอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่พายุพาดผ่าน ระหว่างเมืองบาวเวินกับหาดแอร์ลี
นอกจากนี้ที่เมืองแอร์ หน่วยกู้ภัยโพสต์ภาพฉลามหัวบาตรถูกคลื่นซัดมาอยู่บนถนน ใกล้เมืองแอร์ พร้อมข้อความว่า "คิดว่าปลอดภัยหรือที่จะกลับไปลงน้ำน่ะ คิดใหม่เลยนะ ขนาดฉลามหัวบาตรยังถูกซัดขึ้นมาบนบกในเมืองแอร์เลย ห่างพื้นที่น้ำท่วมไว้ก่อนนะ"
รายงานระบุว่า แม้พายุครั้งนี้รุนแรงมาก แต่ยอดผู้เสียชีวิตยังน้อยมาก มีเพียงรายงานว่าชายคนหนึ่งถูกกำแพงถล่มทับจนเสียชีวิต ส่วนคนอื่นๆ ปลอดภัยเพราะอพยพก่อนที่พายุจะขึ้นฝั่ง
เหตุการณ์ระทึกอยู่ที่เกาะแฮมิลตันและเดย์ดรีม เมื่อเป็นพื้นที่ที่พายุซัดเข้ารุนแรงด้วยความเร็วลมถึง 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้นักท่องเที่ยวและชาวบ้านต้องตกค้างอยู่ในสถานหลบภัย
ด้านนักวิทยาศาสตร์ ระบุว่า อิทธิพลจากพายุเด็บบี้อาจส่งผลทำให้แนวปะการังเกรต แบริเออร์ รีฟ ได้รับความเสียหายด้วย เนื่องจากอยู่ในแนวที่พายุดังกล่าวพัดผ่าน ขณะที่ในปีนี้ อัตราการฟอกขาวในแนวปะการังเกรต แบริเออร์ รีฟ เกิดขึ้นสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ต่อเนื่องจากสถิติสูงสุดเมื่อ 2559
ชมคลิปด้านล้่าง