กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ได้แจ้งปรับเวลาของนาฬิกาวันสิ้นโลก (Doomsday Clock) ให้ขยับเข้าใกล้เที่ยงคืนซึ่งเป็นเวลาหายนะเข้าไปอีก 30 วินาที หลังผู้นำสหรัฐฯคนใหม่ประกาศนโยบายที่จะทำให้โลกเสี่ยงภัยนิวเคลียร์มากขึ้น
จดหมายข่าวกลุ่มนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ (BPA) ได้แจ้งปรับตำแหน่งเข็มวินาทีบนหน้าปัดของนาฬิกาวันสิ้นโลก (Doomsday Clock) ให้ขยับจากตำแหน่งเดิม เข้าใกล้เวลาเที่ยงคืนซึ่งเปรียบเสมือนเวลาหายนะสิ้นโลกเข้าไปอีก 30 วินาที หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ประกาศนโยบายที่จะทำให้โลกเสี่ยงเข้าใกล้ความหายนะต่าง ๆสูงขึ้น ทั้งเรื่องการเตรียมขยายศักยภาพด้านนิวเคลียร์ และการละทิ้งนโยบายแก้ไขความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก
ทั้งนี้ "นาฬิกาวันสิ้นโลก" ไม่ใช่นาฬิกาบอกเวลาจริง แต่เป็นการใช้หน้าปัดนาฬิกาแทนมาตรวัดที่บ่งบอกว่าสถานการณ์โลกในปีนั้น ๆ มีความเสี่ยงที่จะเข้าใกล้หายนะมากน้อยเพียงใด โดยยิ่งเข็มนาฬิกาบอกเวลาเข้าใกล้เที่ยงคืนมากเท่าใด โลกก็ยิ่งมีความเสี่ยงต่อหายนะสูงมากเท่านั้น โดยเข็มนาฬิกาวันสิ้นโลกอาจถูกปรับให้เดินหน้าหรือถอยห่างจากเวลาเที่ยงคืนได้มากน้อยต่างกันในแต่ละปี ตามที่กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ BPA ประเมินและประกาศออกมาให้ทราบทั่วกัน
ในปีนี้ เข็มวินาทีของนาฬิกาวันสิ้นโลกถูกขยับจากตำแหน่งเดิมเมื่อปี 2015 ที่ 23 นาฬิกา 57 นาที มาอยู่ที่ 23 นาฬิกา 57 นาที 30 วินาที ซึ่งทำให้เหลืออีกเพียงสองนาทีครึ่งโลกก็จะเข้าสู่จุดหายนะที่เวลาเที่ยงคืน โดยนับเป็นการปรับเข้าใกล้เวลาเที่ยงคืนมากที่สุดเป็นอันดับสอง รองจากปี 1953 ที่สหรัฐฯทดสอบระเบิดไฮโดรเจน จนเข็มนาฬิกาเดินไปอยู่ที่เวลา 23 นาฬิกา 58 นาที
กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ BPA แถลงว่า เหตุที่ปรับให้นาฬิกาวันสิ้นโลกเดินเข้าใกล้เที่ยงคืนมากขึ้นในปีนี้ เนื่องจากโลกตกอยู่ในอันตรายมากขึ้น ซึ่งเห็นได้จากการประกาศนโยบายแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ของนายทรัมป์ และแผนการล้มล้างข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน รวมทั้งการแสดงทัศนะไม่เชื่อถือเรื่องภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นมติที่บรรดานักวิทยาศาสตร์เห็นพ้องกันอย่างท่วมท้น แต่กลับถูกปฏิเสธจากทรัมป์และคณะรัฐมนตรีของเขา นอกจากนี้ โลกยังเผชิญกับภัยจากกระแสชาตินิยมที่เกิดขึ้นทั่วโลกอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ BPA ได้ปรับให้นาฬิกาเดินหน้าไปเพียง 30 วินาที ซึ่งไม่เคยมีปรากฏมาก่อน เนื่องจากนายทรัมป์เพิ่งเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีได้ไม่นาน