สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ เมื่อวันจันทร์ ประณามเหตุลอบสังหาร นายอังเดร คาร์ลอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงอังการา วัย 62 ปี ว่าเป็นเจตนาต้องการ "ยั่วยุปลุกปั่น" เพื่อทำลายความพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับตุรกี และเป็นความพยายามขัดขวางกระบวนการสร้างสันติภาพในซีเรีย
ปูติน ตามล่า คนบงการฆ่าทูตรัสเซียประจำตุรกี!
ขณะเดียวกัน ปูติน ออกคำสั่งยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยตามสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลรัสเซียทั่วโลก และกล่าวด้วยว่า "อยากทราบ" ว่าใครคือ "ผู้บงการ" โดยได้มอบหมายให้หน่วยข่าวกรองทุกแห่งของรัฐบาลมอสโกนำโดยสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของรัสเซีย (เอฟเอสบี) เร่งสืบหาเบาะแสแล้ว ซึ่งทีมสืบสวนบางส่วนจะเดินทางไปยังกรุงอังการา เพื่อประสานงานกับรัฐบาลตุรกี
นอกจากนี้ ปูตินเรียกร้องขอการยืนยันอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลอังการา ว่าจะมีการรักษาความปลอดภัยให้แก่นักการทูตของรัสเซียและทรัพย์สินของรัฐบาลมอสโกในตุรกีเพิ่มขึ้น หลังสนทนาทางโทรศัพท์กับ
ทั้งนี้ รัฐบาลอังการาระบุตัวผู้ก่อเหตุทันที ว่าคือนายเมฟลุต เมิร์ต อัลดินตาส อายุ 22 ปี ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในกองตำรวจปราบปรามการจลาจลตลอดช่วง 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา และถูกวิสามัญเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ หลังใช้อาวุธปืนยิงเอกอัครราชทูตรัสเซียในระยะเผาขน ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์เปิดนิทรรรศการแสดงภาพถ่ายในกรุงอังการา โดยมีรายงานด้วยว่า อัลดินตาสตะโกนถ้อยคำสรรเสริญพระเจ้า และกล่าวว่า "อย่าลืมซีเรีย อย่าลืมอเลปโป ทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ" แต่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าอัลดินตาสพกอาวุธเข้าไปในงานได้อย่างไร เนื่องจากออกเวรแล้ว และยังไม่ชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายใดหรือไม่
เหตุลอบสังหารเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงอังการาเกิดขึ้นในขณะที่ชาวตุรกีบางส่วนประท้วงอย่างต่อเนื่องที่สถานเอกอัครราชทูตรัสเซีย คัดค้านปฏิบัติการทางทหารของรัฐบาลมอสโกในจังหวัดอเลปโป ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศและกลาโหมของรัสเซีย อิหร่าน และตุรกี มีกำหนดหารือระดับไตรภาคีเรื่องซีเรียร่วมกันที่กรุงมอสโกในวันที่ 20 ธ.ค. ด้วย ซึ่งทุกฝ่ายยืนยันการประชุมจะเดินหน้าต่อไป