ล่าสุดมีประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว ว่า นายโดนัล ทรัมป์ คว้าชัยชนะเลือกตั้ง รับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ เป็นคนที่ 45 อย่างเป็นทางการ ซึ่งก่อนหน้านี้ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ได้ประเมินผลกระทบ ที่จะส่งมาถึงประเทศไทยได้ดังนี้
"ไม่ว่าใครจะได้เป็นผู้นำประเทศสหรัฐคนใหม่ก็อาจจะต้องทำงานร่วมกับสภาคองเกรส ที่เสียงส่วนใหญ่มาจากคนละพรรคการเมืองสะท้อนว่านโยบายการบริหารประเทศไม่ว่าจะเป็นของฮิลลารีคลินตัน หรือ โดนัลด์ ทรัมป์ จะถูกปรับเป็นลูกผสมระหว่าง 2 ขั้วพรรคการเมือง ซึ่งจะมีผลต่อแนวโน้มการส่งออกของไทยในอนาคตผ่านการเติบโตทางเศรษฐกิจ การปกป้องการค้าของสหรัฐ และกรอบการค้าเสรี TPP ที่อาจถูกทบทวนเปลี่ยนแปลงไป
ไทยได้รับผลแบบไหน? หาก ฮิลลารี หรือ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ประเมินว่าไม่ว่าใครจะได้เป็นผู้นำประเทศสหรัฐคนใหม่ก็อาจจะต้องทำงานร่วมกับสภาคองเกรสที่เสียงส่วนใหญ่มาจากคนละพรรคการเมืองสะท้อนว่านโยบายการบริหารประเทศไม่ว่าจะเป็นของฮิลลารีคลินตัน หรือ โดนัลด์ ทรัมป์ จะถูกปรับเป็นลูกผสมระหว่าง 2 ขั้วพรรคการเมือง ซึ่งจะมีผลต่อแนวโน้มการส่งออกของไทยในอนาคตผ่านการเติบโตทางเศรษฐกิจ การปกป้องการค้าของสหรัฐ และกรอบการค้าเสรี TPP ที่อาจถูกทบทวนเปลี่ยนแปลงไป
----- เศรษฐกิจภายในสหรัฐ
ฮิลลารีชนะ
: เศรษฐกิจมีเสถียรภาพมากกว่า / ตลาดเงินตลาดทุนตอบรับเชิงบวก
:นโยบายเศรษฐกิจเก็บภาษีเงินได้ผู้มีรายได้สูง
:กระตุ้นการบริโภคภายในด้วยการปรับเพิ่มรายได้ขั้นต่ำ-ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
:อาจเปลี่ยนรูปแบบTPPให้เอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจสหรัฐฯมากขึ้น
ทรัมป์ชนะ
: เศรษฐกิจไม่เสถียรภาพเท่า
: นโยบายเศรษฐกิจเน้นปกป้องทางการค้ามากขึ้น
:กระตุ้นบริโภคภายในด้วยการลดภาษีเงินได้ และเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
:อาจยกเลิกการจัดทำ TPP เพราะมีแนวทางในการปกป้องการค้าของสหรัฐฯ
-----ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย
ฮิลลารีชนะ
:อาจเปลี่ยนรูปแบบ ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Partnership : TPP) ให้เอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจสหรัฐฯ มากขึ้น ซึ่งช่วยต่อลมหายใจให้ธุรกิจไทยสามารถปรับกลยุทธ์เพื่อให้แข่งขันได้ในตลาดสหรัฐฯ โดยเฉพาะธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า อาหาร เป็นต้น เพราะต้องใช้เวลาในการเจรจากับประเทศสมาชิก ทำให้ไทยมีเวลาทบทวนการเข้าร่วมกลุ่มดังกล่าว
ทรัมป์ชนะ
:กระทบส่งออกไทยไปสหรัฐฯ และสินค้าไทยไปตลาดจีนเสี่ยงได้รับผลกระทบจากห่วงโซ่มาตรการกีดกันทางการค้าแบบสุดโต่งกับสินค้าจีน
Cr::prachachat.net