ผลสำรวจ "ฮิลลารี คลินตัน" มีคะแนนนิยมนำ "โดนัลด์ ทรัมป์" ก่อนขึ้นเวทีดีเบตวันนี้ ด้านสำนักพนันถูกกฎหมาย เชื่อ "ฮิลลารี" มีโอกาส 84.6% จะได้รับเลือกตั้งครั้งนี้
ผลการสำรวจล่าสุดของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก พบว่า นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต กำลังมีคะแนนนิยมนำ นายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน อยู่ 9 จุด ก่อนที่ทั้งคู่จะขึ้นเวทีดีเบตยกสุดท้ายในวันนี้จากการสำรวจชาวอเมริกัน 1,006 คน ระหว่างวันที่ 14 - 17 ต.ค. พบว่าคะแนนความนิยมของ นางคลินตัน อยู่ที่ 47% นำนายทรัมป์ ที่มีคะแนนอยู่ 38% การสำรวจครั้งนี้ ยังพบว่าผู้ตอบสำรวจ 56% ระบุว่า กรณีที่ นายทรัมป์ พูดจาบจ้วงผู้หญิงในปี 2548 จะมีส่วนในการตัดสินใจเลือกประธานาธิบดีของพวกเขา
ด้าน Paddy Power ซึ่งเป็นสำนักพนันที่ถูกกฎหมายของไอร์แลนด์ ได้ประกาศจ่ายเงินแล้วสำหรับนักพนันที่แทงว่า นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต จะชนะการเลือกตั้ง ถึงแม้ยังคงเหลือเวลาอีกราว 3 สัปดาห์ ก่อนถึงวันที่ 8 พ.ย. ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ทั้งนี้ Paddy Power ได้จ่ายเงินออกไปแล้วมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ แก่ผู้ที่เก็งว่า นางฮิลลารี จะชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 45 โดยมีอัตราต่อรองอยู่ที่ 2 ต่อ 11 ซึ่งหมายความว่า นางฮิลลารี มีโอกาสถึง 84.6% ที่จะได้รับเลือกตั้ง
Paddy Power ออกแถลงการณ์ระบุว่า "แนวโน้มการแทงพนันในช่วงที่ผ่านมา ล้วนไปทาง นางฮิลลารี ซึ่งนักพนันเชื่อว่าผลจะออกมาถูกต้อง 100%"
จับตาการประชันวิสัยทัศน์ฮิลลารีVSทรัมป์
สื่อขอให้จับตาดูการทำหน้าที่ผู้ดำเนินการโต้วาทีของ นายคริส วอลเลซ ผู้ประกาศรายการข่าวฟ็อกซ์นิวส์ ซันเดย์ ของสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ ซึ่งยอมรับเมื่อหลายวันก่อนว่าเป็นงานหนัก เพราะไม่ใช่การดำเนินรายการโทรทัศน์ตามปกติ และได้แจ้งหัวข้อการโต้วาทีทั้งหมด 6 หัวข้อ ประกอบด้วย หนี้สิน และการมีสิทธิโดยชอบธรรมคนเข้าเมือง เศรษฐกิจ ศาลฎีกา จุดขัดแย้งในต่างประเทศ และความเหมาะสมในการเป็นประธานาธิบดี บางหัวข้อยังไม่ได้พูดถึงในการโต้วาทีสองครั้งก่อน สื่อ ยังขอให้จับตาดูด้วยว่า คลินตัน และ ทรัมป์ จะจับมือกันในตอนเปิดการโต้วาที หรือไม่ หลังจากที่ไม่ได้จับในตอนเปิดการโต้วาที ครั้งที่ 2 ล่าสุด ปรากฏว่า ทั้งคู่ไม่จับมือกัน โดยต่างคนต่างเดินไปที่แท่นของตนเอง
ลูกสาวของ นายทรัมป์ วัย 34 ปี ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เอ็มเอสเอ็นบีซี ก่อนที่บิดาจะโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์ครั้งที่ 3 ซึ่งจะเป็นครั้งสุดท้ายกับ นางฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ที่มหาวิทยาลัยเนวาดา รัฐเนวาดา ซึ่งเธอกล่าวว่า ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ เธอเชื่อว่าบิดาจะยอมรับ แต่ในที่สุดแล้วบิดาของเธอจะชนะ อย่างไรก็ดี เธอไม่อยากพูดเรื่องแพ้ชนะ เพราะเชื่อว่าบิดาจะทำในสิ่งที่ถูกต้องเสมอ เพราะเขาเป็นคนแบบนี้ โดยเธอได้ย้ำว่า สิ่งที่เกิดขึ้นตลอดในการหาเสียง ทำให้เธอในฐานะคนในครอบครัว รู้สึกไม่สบายใจ เธอไม่แสดงความเห็นส่วนตัวต่อนโยบายหาเสียงของบิดา ยกเว้นเรื่องการดูแลเด็ก สนับสนุนสตรี เพราะเป็นสิ่งที่เธอทำมาตลอดทศวรรษที่ผ่านมา
ฮิลลารีชี้ชาวมะกันมีสิทธิทำแท้ง-ทรัมป์เผยคว่ำกฎหมายทำแท้ง
การดีเบตครั้งสุดท้าย ระหว่าง นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน และ นางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนพรรคเดโมแครต ที่มหาวิทยาลัยเนวาดา ในลาสเวกัส โดยจะใช้เวลา 90 นาที ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า การดีเบตครั้งสุดท้ายนี้จะเพิ่มความเข้มข้นและร้อนแรงในการรณรงค์หาเสียงมากขึ้นไปอีก
ในเวทีดีเบตครั้งสุดท้าย ฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต ได้ประกาศที่จะรักษาสิทธิของผู้หญิง และกลุ่มคนรักร่วมเพศ ส่วนประเด็นการทำแท้ง ฮิลลารี คลินตัน กล่าวว่า ชาวสหรัฐฯ ควรจะมีสิทธิในการตัดสินใจในเรื่องการทำแท้ง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ทำให้หัวใจแตกสลาย การที่ผู้หญิงไม่สามารถเก็บลูกไว้ได้ด้วยเหตุผลในเรื่องสุขภาพ ผู้หญิงควรจะมีสิทธิในการตัดสินใจในชะตาชีวิตของตนเองร่วมกับครอบครัว ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ควรจะเข้ามาแทรกแซงในการตัดสินใจส่วนบุคคลนี้ ซึ่งฉันจะยืนหยัดเพื่อเรื่องนี้
ขณะที่ ด้าน นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ตอบในประเด็นนี้ว่า หากได้เป็นประธานาธิบดี จะคว่ำกฎหมายที่เปิดให้มีการทำแท้งได้อย่างถูกต้อง ก็ประกาศว่าจะปกป้องสิทธิในการครอบครองปืนของชาวอเมริกัน ฮิลลารี ยังระบุด้วยว่า ทรัมป์ เป็นเพียงหุ่นเชิดของ ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เมื่อทั้งคู่ได้ถกเถียงกันอย่างกราดเกรี้ยวในประเด็นเกี่ยวกับรัสเซีย
ด้านผลการสำรวจความคิดเห็น ที่จัดทำโดย CNN เผย นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต มีคะแนนนำเหนือ นายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ไปด้วยคะแนน 52% ต่อ 39%
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
