เด็กที่แก่ที่สุดในเอเชีย เสียชีวิตแล้วด้วยอายุร่างกาย 150 ปี!

สาววัยรุ่นที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น "หญิงสาวที่แก่ที่สุดในเอเชีย" เสียชีวิตลงแล้วในวัย 19 ปี จากโรคที่ไม่ค่อยพบมากนัก คือเป็นโรคที่ทำให้ร่างกายมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเธอจากไปด้วยอายุร่างกายถึง 150 ปี

แอนา โรเซลล์ ชาวฟิลิปปินส์ ป่วยด้วยโรคชราในเด็ก (Hutchinson-Gilford progeria syndrome) ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายของเธอโตเร็วกว่าอายุจริงถึง 8 เท่า สาเหตุของการเสียชีวิตโดยทั่วไปแล้วจะเกิดจากหัวใจวาย หรือหลอดเลือดในสมองแข็งตัว

อนึ่ง โรคชราในเด็ก หรือเรียกว่าโรคโปรจีเรีย พบในเด็กได้ทั้งเพศหญิงและเพศชาย เป็นโรคที่พบได้เพียง 1 ใน 8 ล้านคน โดย 90% ของเด็กที่ป่วยเป็นโรคนี้เกิดจากการมิวเทชันของยีน Lmna ทำให้การสังเคราะห์โปรตีน laminA ผิดปกติ เซลล์จะแก่ตัวเร็วกว่าคนปกติ ลักษณะของเด็กที่ป่วยเป็นโรคนี้จะเหมือนเด็กปกติใน 10-24 เดือนแรก หลังจากนั้นจะเริ่มมีการเจริญเติบโตช้ามาก รูปร่างแคระแกร็น เตี้ย น้ำหนักน้อย แก่เร็ว และเหนื่อยง่าย เด็กที่ป่วยเป็นโรคนี้จะมีสุขภาพเสื่อมลงทุกปี โดยเมื่อผู้ป่วยมีอายุเฉลี่ยประมาณ 10 ปี ก็จะมีอาการป่วยต่าง ๆ เหมือนในผู้สูงอายุ เช่น มีอาการของโรคหัวใจเพิ่มมากขึ้น มีภาวะความดันโลหิตสูง โรคข้ออักเสบ ในผู้ป่วยบางรายต้องทำการผ่าตัดหลอดเลือดหัวใจ (Bypass) ส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักเสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว และโรคหลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัว

ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคนี้ให้หายขาดได้ มีเพียงแต่รักษาตามอาการ หรือการทำ Lmna testing เพื่อตรวจดูในระดับโมเลกุลของหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคโปรจีเรียทั่วโลกถึงแม้จะแตกต่างกันในด้านเชื้อชาติ แต่ลักษณะอาการของโรคจะแสดงออกมาเหมือนกัน และมักจะเสียชีวิตในช่วงอายุ 8-21 ปี หรือเฉลี่ยอายุประมาณ 13 ปี 


ที่มา เว็บไซต์สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี // prachachat