เป็นเวลานานเกือบ 4 ปี ที่ผู้คนในเมืองเอนิด รัฐโอกลาโฮมาของสหรัฐ ร่วมส่งแรงใจและกำลังทรัพย์เพื่อช่วยเหลือ เคที เด็กหญิงวัย 4 ขวบที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งและโรคร้ายแรงอื่นๆ อีกจำนวนมาก ด้วยการประชาสัมพันธ์ขอความช่วยเหลือสังคมของ เจสสิกา ลินน์ กู๊ด แม่ของเด็กน้อย ซึ่งได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ค เว็บไซต์ระดมทุน GoFundMe องค์กรศาสนาท้องถิ่น และนักระดมทุนจำนวนหนึ่ง ด้วยความหวังว่า สักวันหนึ่งเด็กหญิงจะกลับมามีสุขภาพที่ดีขึ้นอีกครั้ง
ทว่า เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประชาชนกลับได้รับทราบข่าวที่ไม่คาดฝันว่า คุณแม่ที่แสดงความห่วงใยลูกอย่างสุดซึ้งรายนี้ ได้เข้ามอบตัวกับสถานีตำรวจท้องที่ และรับสารภาพว่า การป่าวประกาศเพื่อลูกนานหลายปีนั้นเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ และหลอกลวงเงินสนับสนุนไปได้มากกว่า 24,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 830,000 บาท
แต่ความสูญเสียมากที่สุดน่าจะเป็นความรู้สึกของผู้คนนับตั้งแต่เมื่อ 4 ปีก่อน เมื่อกู๊ดได้บอกเล่าเรื่องทุกข์ใจเกี่ยวกับอาการป่วยอย่างร้ายแรงของบุตรสาวคนเล็กของเธอที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่กี่เดือน ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง สมองพิการ พบก้อนเนื้อในสมองหลายครั้ง ภาวะเกิดก่อนกำหนด และอาการแพ้ถั่วอย่างรุนแรง
ในเวลาต่อมา กู๊ดได้ก่อตั้งเพจ Prayerforkatie สำหรับการประชาสัมพันธ์ขอแรงสนับสนุนเพื่อรักษาพยาบาลลูกอย่างเต็มตัว ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ และอาสาสมัครจำนวนมากกับการระดมทุนทรัพย์ของชุมชนในเมืองเอนิด ตั้งแต่สมาคมกีฬา บริษัทเอกชน หรือแม้แต่โบสถ์คริสต์หลายแห่งก็ร่วมด้วย รวมถึงมีการจัดตั้งกองทุนระดมทุนในเว็บไซต์ GoFundMe
ตลอดระยะเวลานั้น แม่วัย 32 ปี ชี้แจงสถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับอาการของลูกโดยตลอด ซึ่งมักจะเป็นเหตุต้องเข้ารับการรักษา หรือโรคภัยเพิ่มเติม เช่น มีอาการชัก เข้ารับการวิจัยสเต็มเซลล์ และรอผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจใหม่ จนเมื่อไม่นานมานี้ ผู้คนที่ติดตามเรื่องราวของเคที่ เริ่มจับความผิดสังเกตบางอย่างได้ เป็นต้นว่า คนไข้ที่ปรากฏในภาพอัพเดทไม่มีท่าทางเหมือนผู้เข้ารับการบำบัดโรคด้วยการทำคีโมอย่างที่บอก หรือแม้กระทั่งว่า ดูสุขภาพดีเหมือนคนที่ไม่เคยป่วยเลย
ความสงสัยดังกล่าวทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ และนำไปสู่การค้นหาข้อเท็จจริงผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองเอนิด ที่ตรวจสอบข้อมูลการรักษาตัวของเด็กและพบว่า เธอไม่เคยต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลด้วยโรคมะเร็งหรือมีเนื้อร้ายเลย ซึ่งเมื่อสอบสวนกู๊ด ในที่สุดก็ยอมรับสารภาพและเข้ามอบตัวว่า ทุกประเด็นที่ป่าวร้องต่อสาธารณชนตลอดมา คือเรื่องที่กุขึ้นทั้งหมด
ความจริงที่น่าตกใจกว่านั้นคือ สามีและลูกคนอื่นๆ ซึ่งเป็นพี่สาวของเคที ก็เชื่อและเข้าใจว่า น้องสาวคนเล็ก มีภาวะสุขภาพที่เลวร้ายจริงๆ รวมถึงตัวของเคทีเอง ก็ถูกทำให้เข้าใจว่าตัวเองไม่สบายมาก ทั้งที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดี โดยจุดนี้ตำรวจได้ตั้งข้อหาทารุณกรรมเด็กกับกู๊ดเพิ่มเติมด้วย ตัวผู้กระทำผิดมีแนวโน้มถูกลงโทษตั้งแต่จำคุก 1 ปี ไปจนถึงตลอดชีวิต และต้องจ่ายค่าปรับจำนวนมากด้วย
เวลานี้ชาวบ้านที่ทราบเรื่องดังกล่าวต่างรู้สึกช็อกกับความจริงที่ถูกเปิดเผย ขณะที่เว็บระดมทุนได้ประกาศว่า จะคืนเงินแก่ผู้บริจาคกับโครงการกำมะลอนี้ ซึ่งเพิ่งระดมทุนได้น้อยมากๆ จากเป้าหมายที่ตั้งไว้
ที่มา : Posttoday.com