สยองขวัญ! ญี่ปุ่นเปิดจดหมายมือมีดฆ่าชายพิการ ผมฆ่าเพื่อช่วยให้โลกสงบสุข

สื่อญี่ปุ่นเปิดเผยจดหมายของมืดมีดบุกสังหารผู้พิการ แสดงขั้นตอนวางแผนโดยละเอียด พร้อมระบุทำไปเพื่อประโยชน์ของมวลมนุษยชาติ

สื่อญี่ปุ่น ringosya.jp เผยแพร่จดหมายของ นายซะโตะชิ อุเอะมัตสึ ผู้ต้องหาคดีสังหารผู้พิการ 19 รายในบ้านพักคนพิการ ที่เคยเขียนถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในลักษณะแสดงความจำนงว่าเขาต้องการสังหารผู้พิการจำนวน 470 คน เพื่อช่วยโลกให้รอดพ้นจากสงครามโลกครั้งที่ 3 ฟื้นฟูเศรษฐกิจ และปลดปล่อยผู้พิการจากชีวิตที่ไม่ต่างจากสัตว์

ในจดหมายดังกล่าว นายอุเอะมัตสึระบุว่าเขาทราบดีว่าแนวคิดนี้ไม่ปกติ แต่เมื่อคิดถึงใบหน้าอันเหน็ดเหนื่อยของบรรดาผู้อภิบาล และสายตาที่ดูไร้ชีวิตของเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในสถานดูแลแล้ว เขาไม่สามารถที่จะอยู่นิ่งเฉยได้จึงตัดสินใจลงมือปฏิบัติการเพื่อประโยชน์แก่ญี่ปุ่นและโลก

นายอุเอะมัตสึบอกว่าคนพิการไม่ได้เป็นมนุษย์ แต่ใช้ชีวิตอยู่เหมือนกับสัตว์ ต้องผูกติดอยู่กับรถเข็นไปตลอดชีวิต ไม่สามารถทำงานบ้านหรือร่วมกิจกรรมทางสังคมได้ เขาจึงเห็นว่าผู้พิการควรจะถูกทำการุณยฆาตได้ด้วยความยินยอมของผู้อภิบาล

นายอุเอะมัตสึบอกว่าได้แนวคิดดังกล่าวมาจากผู้สร้างองค์กรฟรีเมสัน ว่าสงครามจะฆ่ามวลมนุษยชาติในอนาคตซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้า และจะก่อให้เกิดความเคียดแค้นขึ้นเป็นอย่างมาก แต่การฆ่าคนพิการนั้นจะสามารถหยุดความเลวร้ายนี้ได้ เขาจึงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องปฏิวัติเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ และญี่ปุ่นควรจะเริ่มต้นเป็นชาติแรก เขาถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำเพื่อมนุษยชาติ และถามไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงนายกฯญี่ปุ่น ว่าจะใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ของญี่ปุ่นและมวลมนุษยชาติ ร่วมมือกับเขาได้หรือไม่

ในจดหมายดังกล่าว นายอุเอะมัตสึยังได้อธิบายแผนการสังหารผู้พิการอย่างละเอียดด้วย โดยบอกว่าจะลงมือตอนกลางดึกซึ่งมีเจ้าหน้าที่น้อย และจะไม่ทำร้ายเจ้าหน้าที่โดยเด็ดขาด เป้าหมายคือสถานดูแลคนพิการ 2 แห่ง ที่มีผู้พิการอาศัยอยู่มาก หนึ่งในนั้นก็คือบ้านพักผู้พิการที่เกิดเหตุสังหารหมู่ครั้งล่าสุดนี้เอง

หลังจากฆ่าผู้พิการ 260 คนในทั้งสองแห่งแล้ว เขาจะมอบตัว และยอมติดคุก แต่จะติดเพียงไม่เกิน 2 ปี โดยขอให้รัฐบาลชี้ว่าเขาสติไม่สมประกอบ จึงได้รับการลดโทษ จากนั้นเขาจะออกมาใช้ชีวิตปกติในชื่อใหม่ คือทากาชิ อิกุโระ ใช้ศัลยกรรมแปลงโฉมใบหน้าใหม่ และขอรับเงินช่วยเหลือ 500 ล้านเยนจากรัฐบาล

แน่นอนว่ารัฐบาลญี่ปุ่นไม่ได้ทำตามข้อเรียกร้องของนายอุเอะมัทสึ และเขาก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจิตเวชนานกว่า 2 สัปดาห์ แต่ก็ได้ออกมาใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง การที่สุดท้ายนายอุเอะมัทสึสามารถทำตามแผนที่เขาวางไว้ได้ แม้จะไม่สำเร็จทั้งหมด ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นถูกวิจารณ์ว่าไม่ดูแลผู้มีประวัติแนวคิดสุดโต่งอย่างเข้มงวดพอ จนทำให้เกิดโศกนาฏกรรมสังหารหมู่ครั้งเลวร้ายที่สุดในญี่ปุ่นนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลก

สื่อญี่ปุ่นยังรายงานอีกด้วยว่านายอุเอะมัตสึมีภูมิหลังเป็นเด็กที่ร่าเริง และอยู่ชมรมบาสเก็ตบอลตอนมัธยม มีความเป็นผู้นำ และฝันอยากเป็นครู เด็กที่เคยเรียนกับนายซาโตชิตอนเป็นครูฝึกสอนบอกว่านายซาโตชิเป็นครูที่ดีมากและหลังจากที่นายซาโตชิก่อเหตุ ก็ได้ทวิตเตอร์ข้อความว่า 世界が平和になりますように。beautiful Japan!!!!!! หรือ "ขอให้โลกเกิดความสันติสุข ญี่ปุ่นที่สวยงาม!!!!!!"

ภาพจาก AFP 
ที่มาจาก VOICETV