สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงอังการา ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 26 ก.ค.โดยอ้างข้อมูลจากรายงานของสำนักข่าวอนาโดลูว่า ศาลแขวงนครอิสตันบูลอนุมัติคำร้องของอัยการในการออกหมายจับผู้สื่อข่าว 42 คนฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับความพยายามก่อการรัฐประหารเมื่อวันที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยผู้ที่อยู่ในรายชื่อรวมถึงนายบูเลนต์ มูเมย์ ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง และนายเออร์คัน กุน บรรณาธิการของสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ภาคภาษาเติร์ก แต่มีความเป็นไปได้ว่าผู้ต้องหาบางส่วนหลบหนีออกนอกประเทศแล้วเช่นกัน
ขณะที่ในวันเดียวกันสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส ออกแถลงการณ์เรื่องการปลดพนักงาน 211 คนออกจากตำแหน่งทันที เนื่องจากมีส่วนเชื่อมโยงถึงนายเฟตฮุลเลาะห์ กูเลน ศาสนาจารย์ซึ่งกำลังลี้ภัยอยู่ในสหรัฐ โดยประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน เชื่อว่าเป็นบุคคลที่อยู่เบื้องหลังความพยายามยึดอำนาจในครั้งนี้ โดยได้รับความสนับสนุนอีกทอดหนึ่งจาก "ประเทศตะวันตก" และผู้นำตุรกีต้องการให้รัฐบาลวอชิงตันเนรเทศกูเลนให้กลับมารับโทษที่ตุรกีเร็วที่สุด
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวในการออกหมายจับสื่อมวลชนและปลดพนักงานสายการบินเป็นส่วนหนึ่งในมาตรการ "ล้างบางศัตรูทางการเมือง" ของรัฐบาลอังการา ซึ่งหลังผ่านพ้นเหตุรุนแรงจากการพยายามยึดอำนาจของทหารกลุ่มหนึ่งที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 300 ศพแล้ว เออร์โดกันมีคำสั่งปลดและโยกย้ายเจ้าหน้าที่รัฐมากกว่า 60,000 คน ส่วนใหญ่เป็นทหาร ตำรวจ ผู้พิพากษา และข้าราชการประจำกระทรวงหลายแห่ง โดยในจำนวนนี้มีไม่ต่ำกว่า 13,000 คนถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้านสหภาพยุโรป ( อียู ) ออกมาวิจารณ์มาตรการดังกล่าวของตุรกีอย่างหนัก ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 3 เดือนด้วย นายฌอง-โคลด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ( อีซี ) กล่าวว่ารัฐบาลอังการาไม่อยู่ในสถานะพร้อมเข้าร่วมเป็นสมาชิกใหม่ของอียูได้ภายในระยะเวลาอันใกล้นี้ หรืออาจนานกว่านั้น โดยเตือนด้วยว่าหากนำกฎหมายประหารชีวิตกลับมาใช้จริง การพิจารณารับตุรกีเข้าเป็นสมาชิกอียูถือเป็นอันยุติทันที