ทั่วโลกนั่งไม่ติดชี้ชะตาเบร็กซิต อังกฤษ ถอนตัวจาก อียู วันนี้!!

ทั่วโลกนั่งไม่ติดชี้ชะตาเบร็กซิต อังกฤษ ถอนตัวจาก อียู วันนี้!!


วันชี้ขาดอนาคตของอังกฤษและสหภาพ ยุโรป (อียู) เปิดฉากขึ้นแล้ว ในการทาประชามติลงคะแนนเสียงว่าจะอยู่หรือไปจากอียูในวันนี้ โดยการรณรงค์หาเสียงของทั้งสองฝ่ายเป็นไปด้วยความคึกคักและดุเดือด ซึ่งนายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ ผู้เป็น หัวหอกสนับสนุนฝ่าย "อยู่" กับอียู ระบุว่ายังไม่สามารถคาดการณ์ผลการทำประชามติได้ เพราะการต่อสู้เป็นไปอย่างสูสี

จากผลสำรวจล่าสุดของวอท ยูเค ทิงค์ องค์กรเพื่อเผยแพร่มูลอียูและข้อมูลเกี่ยวกับการทำประชามติดังกล่าว พบว่าฝ่าย "อยู่" นำในผลสำรวจ 51% ต่อ 49% ขณะที่ผลสำรวจของไอจี/เซอร์เวชั่น ของ บริษัทเทรดดิ้งการเงินไอจี กรุ๊ป ระบุว่า ฝ่าย "อยู่" ก็ยังคงนำในผลสำรวจอยู่ที่ 45% ต่อ 44% เช่นกัน อย่างไรก็ตามผลสำรวจยูโกฟ พบว่าฝ่าย "ออก" นำอยู่ที่ 44% ต่อ 42%

บอริส จอห์นสัน อดีตนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน หัวหอกของกลุ่มสนับสนุนฝ่ายออกจากอียู เปิดเผยว่า ฝ่ายสนับสนุนให้อยู่กับอียูต่อไปกำลังโกหก เช่น ประเด็นความเข้มแข็งของกองทัพอียู ที่ฝ่าย "อยู่" อ้างอังกฤษเป็นกองกำลังที่สำคัญขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) รวมถึงเรียกร้องให้วันประชามติในวันนี้ เป็นวันประกาศอิสรภาพของอังกฤษ

"พวกเขาบอกเราว่าพวกเราทำอย่างนี้ไม่ได้ แต่เราจะบอกว่าเราสามารถทำได้ พวกเขาจะ บอกเราว่าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากก้มหัวให้กับบรัสเซลส์ แต่เราจะบอกพวกเขาว่าพวกเขาดูถูกประเทศนี้เกินไป" จอห์นสัน กล่าว

บลูมเบิร์ก ระบุว่า ประเด็นสำคัญสำหรับกลุ่ม "ออก" คือการทวงคืนอำนาจในการควบคุม โดยอดีตนายกเทศมนตรีคนดังกล่าว ระบุว่า ชาวยุโรปในอียูอพยพเข้ามาอยู่ในอังกฤษมากถึง 1.84 แสนคน และ 7.7 หมื่นคนจากจำนวนดังกล่าว ย้ายถิ่นฐานเข้ามาโดยปราศจากงานรองรับ

ซาดิค ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน ผู้สนับสนุนการอยู่กับอียู ระบุว่า การยกประเด็น ผู้อพยพของจอห์นสันเป็นการสร้างกระแส ความเกลียดชังต่อผู้อพยพ ในขณะที่การอยู่ กับอียูต่อไปจะง่ายต่อการทำงานร่วมกันเพื่อ จัดการปัญหาต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัญหาผู้อพยพลี้ภัย และการต่อสู้กับการก่อการร้าย

อีซีบีเตรียมพร้อมรับทุกสถานการณ์
มาริโอ ดรากี ผู้ว่าการธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เปิดเผยว่า อีซีบีเตรียมพร้อมมาตรการฉุกเฉินที่จำเป็นเพื่อรับมือกับความวุ่นวายใน ตลาดทุกรูปแบบที่เป็นไปได้ ทั้งการเพิ่มสภาพคล่องและการคงเสถียรภาพตลาด หลังความวุ่นวาย ดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะกระทบกับภาพรวมของ ยูโรโซน
อย่างไรก็ตาม บลูมเบิร์กเปิดเผยอ้างแหล่งข่าวจากรัฐบาลฝรั่งเศสและเยอรมนี พบว่าทั้งสองชาติยังคงไม่มีแผนสำรองสำหรับการรองรับเบร็กซิตและไม่มีแผนการจะเปิดเผยใดๆ ในวันที่ 24 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นวันที่ผลของการทำประชามติจะออกมาอย่างเป็นทางการ

เอ็นริโก เล็ตตา อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลี ระบุว่า ทั้งเยอรมนีและฝรั่งเศสต่างมีวาระสำคัญอันดับแรกที่แตกต่างกัน โดยเยอรมนีจะเน้นไปที่การรับมือกับผู้ลี้ภัย แต่ฝรั่งเศสจะเน้นไปที่เศรษฐกิจ จึงอาจทำให้อียูไม่มีแผนการใดๆ ออกมารับมือหลังเบร็กซิต เพราะความเห็นที่ขัดแย้งกันดังกล่าว

ขณะเดียวกัน เจเน็ต เยลเลน ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยระหว่างการขึ้นอภิปรายนโยบายกับสภาคองเกรสว่า กังวลว่าเบร็กซิตจะกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยเมื่อวันที่ 14-15 มิ.ย. ที่ผ่านมา และย้ำด้วยว่าการขึ้นดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวในระดับปานกลาง ความเข้มแข็งของตลาดแรงงาน และอัตราเงินเฟ้อที่ควรจะมุ่งขึ้นไปยังเป้าหมายที่ 2% โดยตัวเลขจ้างงานเดือน พ.ค.ที่ต่ำที่สุดในรอบ 5 ปีนั้น ไม่ควรที่จะนำมาเป็นประเด็นมากเกินไป เนื่องจากการจ้างงานเดือนอื่นๆ ยังอยู่ในเกณฑ์ดี

รอยเตอร์ส ระบุว่า

จากคำกล่าวของเยลเลนทำให้เฟดอาจไม่ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ค. เนื่องจากก่อนถึงวันประชุมเฟดในวันที่ 26-27 ก.ค. จะมีรายงานการจ้างงานประจำเดือนออกมาแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

ธุรกิจเอเชียไม่เอาเบร็กซิต

หนังสือพิมพ์วอลสตรีท เจอร์นัล รายงานว่า บรรดาบริษัทเอกชนในเอเชีย เช่น ต้าเหลียน วันดา กรุ๊ป บริษัทบันเทิงและอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ของจีน ซึ่งลงทุนในซันซีเกอร์ อินเตอร์เนชันนัล ผู้สร้างเรือยอชต์สัญชาติอังกฤษ ออกโรงเตือนก่อนหน้านี้ว่าธุรกิจจีนอาจย้ายออกจากสหราชอาณาจักร หากอังกฤษออกจากอียูเช่นเดียวกับ หลี่กาชิง เศรษฐีจากฮ่องกงเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ในอังกฤษ เปิดเผยว่าอาจจะลดการลงทุนในอังกฤษลง

ขณะเดียวกัน ทาทากรุ๊ป จากอินเดีย ซึ่งมีการจ้างงานในอังกฤษถึง 6.9 หมื่นอัตรา และเป็นเจ้าของแบรนด์รถยนต์จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ออกโรงเตือนให้ชาวอังกฤษพิจารณาให้ถี่ถ้วน และหากอังกฤษออกจากอียูจะทำให้การขายชิ้นส่วนรถยนต์และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในตลาดขนาดใหญ่อย่างอียูยากขึ้น โดยยุโรปเป็นตลาดขนาดใหญ่ของจากัวร์ แลนด์โรเวอร์ คิดเป็นถึง 1 ใน 4

ก่อนหน้านี้ สมาคมธุรกิจญี่ปุ่น เปิดเผยว่า เอกชนญี่ปุ่นมากกว่า 1,000 แห่ง ลงทุนในอังกฤษปีละมากกว่า 1 ล้านล้านเยน (ราว 3 แสนล้านบาท) เช่น ฟูจิตสึ บริษัทระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และคลาวด์ ที่จ้างงานในอังกฤษมากกว่า 1.4 หมื่นอัตรา ระบุว่า เบร็กซิตอาจทำให้ลูกค้าย้ายออกจากอังกฤษและทำให้ความต้องการลงทุนในสหราชอาณาจักรลดลง

ขอบคุณ>>posttoday

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์