เกิดเหตุสะเทือนขวัญทั่วโลกขึ้นอีกครั้ง เมื่อมือปืนบุกยิง โจ ค็อกซ์ สมาชิกรัฐสภาจากพรรคฝ่ายค้านของอังกฤษ เสียชีวิตในวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้โครงการรณรงค์การลงประชามติออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ของอังกฤษที่จะจัดขึ้นในวันที่ 23 มิ.ย. ต้องยุติลงชั่วคราวทั้งสองฝ่าย ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เหตุการณ์สลดครั้งนี้อาจจะส่งผลทางจิตวิทยาของชาวอังกฤษและเปลี่ยนทิศทางของผลการลงประชามติด้วยเช่นกัน
ค็อกซ์ สมาชิกรัฐสภาดาวรุ่งของพรรคแรงงาน วัย 41 ปี เป็นผู้มีบทบาทอย่างโดดเด่นในการเรียกร้องให้อังกฤษอยู่ในอียูและเป็นผู้รณรงค์สิทธิมนุษยชนของผู้อพยพจากซีเรีย ถูกยิง 3 ครั้งและถูกแทงจนเสียชีวิต เมื่อช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นที่ถนนในเมืองบริสตอล ทางตอนเหนือของอังกฤษ ระหว่างเตรียมเข้าสำนักงานในเขตเวสต์ยอร์กเชียร์ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการฆาตกรรมสมาชิกรัฐสภาครั้งแรกตั้งแต่ปี 1990
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจเขตเวสต์ยอร์กเชียร์ เปิดเผยว่า ได้จับกุม โทมัส แมร์ ชายผู้ต้องสงสัย อายุ 52 ปี พร้อมอาวุธปืน โดยยังไม่ระบุแรงจูงใจที่ชัดเจน ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งระบุว่า เห็นชายคนดังกล่าวดักรอและหยิบอาวุธปืนขึ้นยิง
หนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดียน รายงานอ้างพยานผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า ผู้ก่อเหตุตะโกนว่า "อังกฤษมาก่อน (บริติช เฟิสต์)" ซึ่งเป็นชื่อกลุ่มรณรงค์ต่อต้านการรับผู้อพยพและต่อต้านการเป็นสมาชิกอียู ขณะที่เว็บไซต์ข่าว ดิ อินดิเพนเดนท์ รายงานว่า แมร์ เป็นสมาชิกกลุ่มสปริงบุ๊กคลับ เป็นองค์กรอนุรักษนิยมสุดขั้วที่ปกป้องอุดมการณ์ชาตินิยมผิวขาวในกรุงลอนดอน และได้ร่วมรณรงค์ให้อังกฤษออกจากอียูมานานหลายปี
ด้านนายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ ยกเลิกการเดินทางร่วมโครงการรณรงค์ให้อังกฤษอยู่ในอียู พร้อมกล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์สูญเสียครั้งสำคัญ โดยกลุ่มรณรงค์ทั้งสองฝ่ายได้ยุติกิจกรรมทั้งหมดเป็นวันที่ 2
นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะเพิ่มเสียงสนับสนุนโครงการอยู่ในอียู ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวทำให้ค่าเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นต่อเหรียญสหรัฐ 0.1% อยู่ที่ 1.4218 เหรียญสหรัฐ/ปอนด์ เมื่อเวลา 14.52 น. ที่นิวยอร์ก หลังลดลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา จากผลสำรวจความคิดเห็นของบริษัทวิจัยตลาดทั้ง 5 แห่งพบว่า ฝ่ายโหวตสนับสนุนอียูมีคะแนนนิยมตามฝ่ายออกจากอียู สร้างความกังวลเศรษฐกิจต่อบรรดานักลงทุนทั่วโลกตลอดสัปดาห์ที่แล้ว
เช่นเดียวกับราคาทองคำก็ปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี หลังบรรดาเทรดเดอร์ คาดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเปลี่ยนทิศทางผลลงประชามติ ทำให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง โดยราคาทองคำงวดส่งมอบทันทีลดลง 0.4% อยู่ที่ 1,286.20 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวลือเกิดขึ้นว่าอาจจะมีการเลื่อนวันลงประชามติออกไป
โจ มานิมโบ นักวิเคราะห์หน่วยวิจัยของเวสเทิร์น ยูเนียน ระบุว่า ค่าเงินปอนด์ที่ปรับตัวขึ้นเป็นผลมาจากข่าวโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับค็อกซ์ ซึ่งเป็นผู้รณรงค์ในฝ่ายโหวตอยู่ในอียูอย่างแข็งขัน จึงเป็นไปได้ว่าอาจจะสร้างความเห็นใจและสนับสนุนฝ่ายให้อังกฤษโหวตอยู่ในอียู
ทั้งนี้ ตั้งแต่โครงการรณรงค์ต่อต้านการก่อการร้ายในไอร์แลนด์เหนือยุติลง เมื่อช่วงปี 1997 เหตุการณ์โจมตีสมาชิกรัฐสภาในอังกฤษเกิดขึ้นน้อยครั้งมาก ขณะที่กฎหมายควบคุมอาวุธปืนก็ถูกบังคับใช้อย่างเข้มงวด โดยเหตุการณ์ฆาตกรรมสมาชิกรัฐสภาอังกฤษครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อปี 1990
"เหตุโศกนาฏกรรมมักก่อให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวในหมู่ประชาชนที่แตกแยกได้ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่า เหตุการณ์นี้อาจจะเปลี่ยนทิศทางความเชื่อมั่นของชาวอังกฤษให้มาสนับสนุนการอยู่ในอียูได้" มาเซน อิสซา นักกลยุทธ์อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศอาวุโสของธนาคารโตรอนโตโดมิเนียน กล่าว
ที่มา : posttoday.com