สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ว่า นายเอฮับ
โมฮีเอลดีน ผู้อำนวยการสำนักงานการเดินอากาศแห่งชาติอียิปต์ (เอ็นเอเอ็นเอสซี) เผยเมื่อวันจันทร์ว่า ไม่พบว่าเครื่องบินโดยสารแอร์บัส เอ 320 เที่ยวบินเอ็มเอส 804 สายการบินอียิปต์แอร์ มีการลดระดับเพดานบินก่อนหายไปจากจอเรดาร์และขาดการติดต่อไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 พ.ค. ซึ่งขัดแย้งกับข้อมูลที่กระทรวงกลาโหมกรีซออกมาเผยเมื่อวันศุกร์ว่า เรดาร์ของอียิปต์ตรวจพบการลดระดับเพดานบินอย่างรวดเร็วของเครื่องบิน ลงมาอยู่ที่ระดับความสูงเพียง 15,000 ฟุต ก่อนที่สัญญาณจะหายไป
ด้านสำนักอัยการอียิปต์ ได้ขอความร่วมมือไปยังทางการฝรั่งเศสและกรีซ ในการส่งต่อข้อมูลทุกอย่างทั้งเอกสาร เสียง และบันทึกข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับเที่ยวบินเอ็มเอส 804 ในวันเกิดเหตุ นับตั้งแต่ออกเดินทางจากสนามบินชาร์ล เดอ โกล ในกรุงปารีส กระทั่งขาดการติดต่อไปหลังบินพ้นผ่านน่านฟ้ากรีซเข้าสู่น่านฟ้าอียิปต์เพียงไม่นาน ยังมีการร้องขอบันทึกการสนทนาระหว่างนักบินและหอควบคุมการบินกรีซด้วย เพื่อตรวจสอบว่ามีการแจ้งสัญญาณฉุกเฉินจากนักบินหรือไม่
เจ้าหน้าที่อียิปต์ยืนยันว่าไม่มีการขอความช่วยเหลือใดๆ จากนักบินก่อนสัญญาณจากเครื่องจะขาดหายไป ส่วนเจ้าหน้าที่กรีซระบุว่าน้ำเสียงของนักบินดูเป็นปกติดี ขณะที่ฝ่ายสืบสวนของฝรั่งเศส เผยข้อมูลการส่งสัญญาณอัตโนมัติจากเครื่องบินสู่ภาคพื้นดิน พบมีการตรวจจับควันและมีความผิดปกติที่น่าจะเป็นความผิดพลาดของระบบคอมพิวเตอร์บางอย่างเกิดขึ้นเพียงไม่นานก่อนเครื่องหายไป อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถระบุได้ถึงที่มาของควัน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญยังไม่ตัดความน่าจะเป็นใดๆ ออกไป ไม่ว่าจะเป็นเหตุวินาศกรรมหรือปัญหาทางเทคนิค
ในปฏิบัติการค้นหาด้วยเครื่องบินและเรือในพื้นที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางตอนเหนือของเมือง อเล็กซานเดรียของอียิปต์ พบชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ สัมภาระ และซากเครื่องจำนวนหนึ่งซึ่งยืนยันคร่าวๆ ได้ถึงพิกัดของจุดตก แต่เจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าค้นหากล่องบันทึกข้อมูลการบินหรือกล่องดำต่อไป ซึ่งเครื่องส่งสัญญาณระบุตำแหน่งจากกล่องดำมีอายุการทำงานราว 30 วัน จากหลักฐานที่พบ สำนักงานอัยการเตรียมดำเนินการสอบสวนด้านอาชญากรรม โดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยการบินทั้งของอียิปต์และฝรั่งเศส รวมถึงเจ้าหน้าที่จากแอร์บัส กำลังดำเนินการตรวจสอบด้านเทคนิค ขณะที่เจ้าหน้าที่สืบสวนเริ่มทำการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากครอบครัวของผู้ที่อยู่บนเครื่อง
เอ็มเอส 804 ออกเดินทางพร้อมด้วยผู้โดยสาร 56 คน และลูกเรือ 10 คน นับเป็นเหตุการณ์เกี่ยวกับการบินครั้งที่ 3 ของอียิปต์ ตั้งแต่เดือน ต.ค. ปีที่แล้ว ถัดจากเหตุเครื่องบินโดยสารรัสเซียถูกระเบิดโจมตีจากกลุ่มก่อการร้ายไอเอสสังหารผู้โดยสารและลูกเรือยกลำ 224 ราย และเหตุผู้โดยสารใช้ระเบิดปลอมข่มขู่เที่ยวบินของอียิปต์แอร์เมื่อเดือน มี.ค. ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอียิปต์ที่ชะลอตัวหนักมาตั้งแต่เหตุวุ่นวายทางการเมืองเมื่อปี 2554 รายได้จากภาคการท่องเที่ยวในไตรมาสแรกของปีนี้ลดลงราว 2 ใน 3 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วมาอยู่ที่ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 17,732 ล้านบาท).“
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
