สหรัฐฯ-เกาหลีใต้ เตรียมจัดการซ้อมรบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

เมื่อวันที่ 7 มี.ค. กองบัญชาการทหารร่วมสหรัฐฯ-เกาหลีใต้แถลงการณ์ว่า เกาหลีใต้และสหรัฐฯจะร่วมกันจัดการซ้อมรบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งจะเกิดขึ้นหลังจากเกาหลีเหนือได้ทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ และปล่อยจรวดพิสัยไกลไปหลายอาทิตย์

การปฏิบัติการภายใต้รหัส “Key Resolve” และ “Foal Eagle” จะดำเนินขึ้นภายในสิ้นเดือนนี้ โดยกองทัพสหรัฐฯจะจัดกำลังประมาณ 17,000 นาย ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าปีที่แล้วเท่าตัว อีกทั้งยังจัดทหารอากาศและนาวิกโยธินที่ชำนาญการ ส่วนกองทัพเกาหลีใต้จะจัดกำลังประมาณ 300,000 นาย ซึ่งมากกว่าจำนวนทหารเฉลี่ยของทุกปีประมาณ 1.5 เท่า

การปฏิบัติการซ้อมรบครั้งใหญ่ในคาบสมุทรเกาหลีนี้จะเกิดขึ้นหลังจากเกาหลีเหนือทำการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์และปล่อยจรวด โดยสหรัฐฯจะแสดงแสนยานุภาพของอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ เช่นเรือบรรทุกเครื่องบิน John C.Stennis พร้อมด้วยบริวาร รวมถึงเรือดำน้ำติดอาวุธนิวเคลียร์และเครื่องบินเติมน้ำมันกลางอากาศ อีกทั้งเครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 ก็เข้าร่วมการปฏิบัติการด้วย

การเพิ่มกองกำลังในครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อต่อต้านการปลุกปั่นใดๆที่อาจจะเกิดขึ้นจากเกาหลีเหนือ ที่ได้ประณามการซ้อมรบว่าเป็นการบุกรุกทางเหนือ และได้สั่งเตรียมหัวรบนิวเคลียร์ให้พร้อมออกปฏิบัติเมื่อจำเป็น โดยคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือได้กล่าวว่า ศัตรูกำลังวางแผนที่จะจัด “ปฏิบัติการ” ที่มุ่งเป้าโจมตีผู้นำและระบบของเกาหลีเหนือ

ทั้งนี้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้ยิงวัตถุที่เคลื่อนที่แบบวิถีโค้งพิสัยใกล้ไป 6 ครั้งในน่านน้ำทางตะวันออก เป็นการแสดงความโกรธเกรี้ยวต่อมติใหม่ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่เกาหลีใต้ให้ความเห็นว่าเป็นมาตรการที่ไม่ใช่ทางทหารที่รุนแรงและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหประชาชาตินั่นเอง