อากาศแปรปรวน ทำขั้วโลกเหนืออุณหภูมิสูงขึ้น 22 องศา

อากาศแปรปรวนทำขั้วโลกเหนืออุณหภูมิสูงขึ้น 22 องศาและหากน้ำแข็งขั้วโลกละลายมากกว่าปกติ ย่อมก่อให้เกิดความแปรปรวนในกระแสน้ำทะเล และน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ตามมา

รวมถึงน้ำท่วมฉับพลันในหลายเมืองใหญ่ทางภาคตะวันออกและภาคใต้ของประเทศจนมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 43 ราย พายุที่รุนแรงผิดฤดูกาลเกิดขึ้นจากปรากฏการณ์เอลนิญโย ซึ่งไม่เพียงส่งผลในสหรัฐฯ แต่ยังทำให้เกิดพายุและน้ำท่วมใหญ่ในอังกฤษ รวมถึงอีกหลายประเทศในลาตินอเมริกา ขณะที่ประเทศในอาเซียนเผชิญภัยแล้งอย่างหนัก

 พายุที่ถล่มทั้งอังกฤษ ไอซ์แลนด์ สวาลบาร์ด จะพัดเอาหย่อมความกดอากาศต่ำและอุณภูมิสูงขึ้นไปสู่มหาสมุทรอาร์กติก ทำให้ภายในวันพุธนี้ อุณหภูมิบริเวณขั้วโลกเหนือจะสูงถึงประมาณ 1 องศาเซลเซียส หรือสูงกว่าระดับปัจจุบัน 22 องศาเซลเซียส และสูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของขั้วโลกเหนือถึง 40 องศาเซลเซียส ซึ่งเปรียบเทียบเหมือนกับการที่ "นรกกลายเป็นน้ำแข็ง" เลยทีเดียว เนื่องจากขั้วโลกเหนือไม่เคยมีอุณหภูมิสูงเกิน 1 องศาเซลเซียสในช่วงปลายเดือนธันวาคม

อุณหภูมิที่สูงขนาดนี้ ทำให้ขั้วโลกเหนือเสี่ยงต่อการเกิดภาวะน้ำแข็งละลายอย่างฉับพลัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอุณหภูมิสูงต่อเนื่องเป็นเวลานาน และหากน้ำแข็งขั้วโลกละลายมากกว่าปกติ ย่อมก่อให้เกิดความแปรปรวนในกระแสน้ำทะเล และน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ตามมา