ขอขอบคุณ บีบีซีไทย - BBC Thai
นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่าแผนการของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในการยุติสงครามกลางเมืองในซีเรียที่เพิ่งออกมา ถือเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญ ซึ่งทำให้ชาวซีเรียมีทางเลือกที่แท้จริงระหว่างสงครามกับสันติภาพ
ก่อนหน้านี้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ มีมติเอกฉันท์รับรองแผนการสร้างสันติภาพในซีเรีย ด้วยการกำหนดกรอบเวลาให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมโต๊ะเจรจาอย่างเป็นทางการ และให้จัดตั้งรัฐบาลสมานฉันท์ในซีเรียภายใน 6 เดือน
สำหรับสาระสำคัญของแผนการสร้างสันติภาพในซีเรีย คือ เรียกร้องให้มีการหยุดยิงและให้เริ่มเปิดเจรจาเรื่องการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองระหว่างรัฐบาลซีเรียและกลุ่มต่อต้านในช่วงต้นเดือน ม.ค.ปีหน้า โดยนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียบอกว่าน่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงจัดตั้งรัฐบาลสมานฉันท์ได้ภายใน 6 เดือน แผนการนี้ยังกำหนดให้จัดการเลือกตั้งภายใต้การดูแลของยูเอ็นภายใน 18 เดือน โดยเน้นย้ำให้ชาวซีเรียเป็นผู้ตัดสินอนาคตของประเทศตนเอง
ส่วนข้อตกลงหยุดยิงนั้นยังมีความเห็นต่างกันในเรื่องที่ว่ากลุ่มใดจะถือว่าเป็นกลุ่มก่อการร้ายบ้าง ซึ่งจะทำให้กลุ่มเหล่านี้ถูกตัดออกจากการเจรจาหรือการหยุดยิง โดยแผนการกำหนดให้ปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายสามารถดำเนินต่อไปได้ตามปกติ ซึ่งจะเอื้อให้รัสเซีย ฝรั่งเศส และสหรัฐฯ สามารถโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ารัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้ต่อไป แต่ขอให้ทุกฝ่ายหยุดโจมตีพลเรือน
อย่างไรก็ตาม แผนการนี้ไม่ได้กล่าวถึงอนาคตของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย ไว้อย่างชัดเจน โดยบรรดาชาติตะวันตกเรียกร้องให้เขาก้าวลงจากอำนาจ แต่รัสเซียและจีนไม่เห็นด้วย และว่าไม่ควรใช้ข้อเรียกร้องดังกล่าวเป็นเงื่อนไขก่อนที่จะมีการเจรจาสันติภาพ ซึ่งแม้ในเวลาต่อมา ชาติตะวันตกและชาติอาหรับจะยอมให้นายอัสซาดเข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองของซีเรีย แต่ก็ยืนกรานว่าเขาจะต้องลงจากตำแหน่งในที่สุด
http://www.bbc.co.uk/news/world-middle-east-35138675