สหรัฐฯ จะขายอาวุธให้ไต้หวัน ไม่สนจีนค้าน

รัฐบาลโอบามาประกาศขายอาวุธให้ไต้หวันมูลค่า 1.83 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (6 หมื่น 6 พันล้านบาท) ขณะจีนแสดงท่าทีคัดค้านและประกาศจะคว่ำบาตรบริษัทของสหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้อง
ข้อตกลงซื้อขายอาวุธครั้งแรกในรอบสี่ปีนี้เกิดขึ้นในขณะที่สหรัฐฯ และจีนกำลังมีความสัมพันธ์ไม่สู้ดีนักจากการที่จีนก่อสร้างเกาะเทียมในบริเวณทะเลจีนใต้
อาวุธที่สหรัฐฯ จะขายให้ไต้หวันในครั้งนี้ประกอบด้วย เรือฟริเกตที่ปลดประจำการจากกองทัพเรือสหรัฐฯ สองลำ ขีปนาวุธต่อต้านรถถัง ยานโจมตีสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก ตลอดจนขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศและยุทโธปกรณ์อื่นๆ
ข้อตกลงดังกล่าวจะได้รับความเห็นชอบภายใน 30 วันหากว่าสภาคองเกรสไม่คัดค้าน ซึ่งคาดว่าโอกาสที่จะมีการคัดค้านเป็นไปได้น้อยมากเนื่องจากทั้งฝ่ายเดโมแครตและรีพับลิกันต่างก็มีความกังวลเกี่ยวกับความสามารถของไต้หวันที่จะป้องกันตัวเองจากจีนที่มีกำลังทางทหารแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ
โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ จอห์น เคอร์บีกล่าวว่าการขายอาวุธมีความสอดคล้องกับกฎหมายความสัมพันธ์กับไต้หวันปี 2522 ที่กำหนดให้สหรัฐฯ จัดหาอาวุธแก่ไต้หวันให้พอเพียงสำหรับการป้องกันตนเอง ถึงแม้สหรัฐฯ จะไม่ได้ยอมรับไต้หวันว่าเป็นอีกประเทศหนึ่งที่เป็นอิสระจากจีนก็ตาม
"การซื้อขายอาวุธครั้งนี้ไม่ควรส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของเรากับจีน" เขาบอกกับผู้สื่อข่าว "เรายังคงต้องการมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น โปร่งใสขึ้น ส่งผลมากขึ้นกับจีนในภูมิภาคนั้น และเราก็จะยังคงพยายามต่อไป"
แต่จีนได้เรียกอุปทูตสหรัฐฯ ประจำปักกิ่งเข้าพบเพื่อประท้วงการขายอาวุธดังกล่าว
"ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่อาจแยกออกได้จากดินแดนของจีน จีนคัดค้านการขายอาวุธของสหรัฐฯ ต่อไต้หวันอย่างรุนแรง" รัฐมนตรีช่วยว่าการต่างประเทศของจีน เจิ้งซีกวงกล่าว
จีนมองไต้หวันว่าเป็นจังหวัดหนึ่งที่แยกตัวออกมาซึ่งในวันหนึ่งจะกลับเข้ามารวมอยู่กับจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองก็ดีขึ้นในช่วงไม่นานมานี้ เมื่อเดือนที่แล้วผู้นำทั้งสองประเทศได้มีการพบปะกันเป็นครั้งแรกหลังจากสงครามกลางเมืองในปี พ.ศ. 2492
ข้อมูลจากทำเนียบขาวระบุว่าการขายอาวุธให้ไต้หวันที่ผ่านมาของสหรัฐฯ มีมูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 12 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (4 แสน 3 หมื่นล้านบาท)
ประธานคณะกรรมาธิการกิจการทหารของวุฒิสภา จอห์น แม็คเคนเรียกร้องให้มีกระบวนการขายอาวุธให้กับไต้หวันอย่างเป็นประจำมากขึ้น โดยกล่าวว่าเป็นสิ่งจำเป็น "เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการทิ้งช่วงนานๆ เนื่องจากความกลัวที่จะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ -จีนอาจส่งผลเสียต่อขีดความสามารถในการป้องกันตัวเองของไต้หวัน"
ความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ มีเพิ่มขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สหรัฐฯ มีความกังวลกับการสร้างเกาะเทียมของจีนในทะเลจีนใต้ โดยเชื่อว่าจีนกำลังใช้เกาะเหล่านั้นขยายการอ้างสิทธิเหนือน่านน้ำของตน
ในเดือนตุลาคม เรือยูเอสเอส แลสเซนแล่นเข้าไปในบริเวณหมู่เกาะสแปร็ตลีย์เพื่อท้าทายการอ้างสิทธิเหนือหมู่เกาะเหล่านั้นของจีน