เปิดคลังแสงยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ ที่ใช้โจมตีกลุ่มไอเอส

เครื่องบินรบของสหราชอาณาจักรได้ออกปฏิบัติการในซีเรียแล้ว นับตั้งแต่ที่นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ได้รับไฟเขียวจากสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพุธ (2 ธ.ค.) ให้โจมตีทางอากาศกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรียได้ โดยก่อนหน้านี้สหราชอาณาจักรได้โจมตีทางอากาศกลุ่มไอเอสในอิรักมาตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว ในฐานะชาติแนวร่วมกลุ่มพันธมิตร ที่มีสหรัฐฯ เป็นแกนนำ

บีบีซีรวบรวมอาวุธยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ ที่ใช้ในการโจมตีทางอากาศกลุ่มไอเอสว่ามีอะไรบ้าง

เครื่องบินเอฟ-22 แร็ปเตอร์ 

จัดเป็นเครื่องบินขับไล่ล่องหนที่สามารถหลบการตรวจจับของเรดาร์ได้ ออกปฏิบัติภารกิจการสู้รบเป็นครั้งแรกในปฏิบัติการโจมตีกลุ่มไอเอสในซีเรีย เป็นเครื่องบินที่ติดตั้งขีปนาวุธอากาศสู่พื้นดินและระเบิดนำวิถีที่มีศักยภาพโจมตีเป้าหมายได้แม่นยำ รวมทั้งขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ เข้าประจำการครั้งแรกเมื่อปี 2550 แต่เนื่องจากปัญหาด้านเทคนิคจึงไม่ได้ออกปฏิบัติการจริงในสนามรบ

เอฟ -22 ขึ้นปฏิบัติการในระดับเพดานบินที่สูงได้ ทั้งยังสามารถบินได้เร็วกว่าเสียง โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์สันดาปตอนท้ายที่กินน้ำมันมาก เป็นไปได้ว่ามีการใช้เอฟ 22 เข้าไปในน่านฟ้าซีเรียโดยที่ไม่ถูกตรวจจับ และนำข้อมูลเป้าหมายส่งไปให้เรือรบที่ลอยลำอยู่ในอ่าวเปอร์เซียและทะเลแดง ในการโจมตีเป้าหมายเหล่านั้น

เอฟ-18 ฮอร์เนต 

จัดเป็นเครื่องบินรบอเนกประสงค์ ที่สามารถปฏิบัติภารกิจทั้งสอดแนมและโจมตี ประจำการอยู่บนเรือบรรทุกเครื่องบินที่ลอยลำอยู่ในอ่าวเปอร์เซีย เมื่อเดือนตุลาคมปีนี้ เรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอสธีโอดอร์ รูสเวลท์ ได้เดินทางออกจากภูมิภาคดังกล่าวแล้ว โดยจะมีเรือบรรทุกเครื่องบินแฮรี ทรูแมนเข้าไปประจำการแทนพร้อมกับเรือพิฆาตอาร์ลีห์เบิร์ก 3 ลำ และเรือลาดตระเวน 1 ลำ โดยในขณะนี้ เครื่องบินรบสหรัฐฯ ออกปฏิบัติการจากฐานทัพอินจีร์ลิคในตุรกีและฐานทัพอื่น ๆ ในภูมิภาค

เอฟ-18 ฮอร์เนต ติดตั้งระบบเรดาร์ที่ล้ำสมัย ซึ่งสามารถตรวจจับเป้าหมายได้ในทุกสภาพอากาศและจากระยะไกล มีกระเปาะตรวจับและชี้เป้าแบบก้าวหน้า เอื้อให้นักบินสามารถมองเห็นเป้าหมายได้ในตอนกลางคืนและในทัศนวิสัยการมองเห็นต่ำ และนำทางอาวุธนำวิถีด้วยเลเซอร์ หมวกบินติดศูนย์เล็งที่แสดงข้อมูลการบินบนหน้าจอหมวกบิน ทำให้นักบินเห็นเป้าหมายได้รอบทิศ โดยไม่ต้องหันเครื่องบินให้ตรงเป้าหมายในการโจมตี

กองทัพอากาศออสเตรเลียได้นำเอฟ-18 ฮอร์เน็ตไปใช้ในตะวันออกกลางในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเช่นกัน รวมทั้งเครื่องบินเติมน้ำมันกลางอากาศและเครื่องบินเตือนภัยทางอากาศ

เอฟ-16 ฟอลคอน

เป็นเครื่องบินขับไล่ ทำหน้าที่ได้หลายบทบาท มีรูปร่างเพียวบางและความคล่องตัวสูงมาก สามารถตรวจจับเป้าหมายได้ในทุกสภาพอากาศ และบินได้ในระยะไกล โดยไม่จำเป็นต้องเติมน้ำมันกลางอากาศ ถูกนำไปใช้ในปฏิบัติการพายุทะเลทรายเมื่อปี 2534 และต่อมาในปฏิบัติการเสรีภาพอิรัก และเมื่อปี 2554 ในการแทรกแซงในลิเบีย

ไม่เพียงแต่สหรัฐฯ เท่านั้นที่ใช้เอฟ-16 พันธมิตรอีกหลายชาติก็ส่งเอฟ-16 ไปร่วมในปฏิบัติการปรามไอเอส เมื่อไม่นานมานี้ สหรัฐฯ ได้ตกลงขายเอฟ-16 จำนวน 36 ลำให้กับอิรัก เพื่อช่วยในการปราบไอเอส โดยเครื่องบินชุดแรก 4 ลำได้เดินทางถึงอิรักแล้วเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

อีเอ-18จี โกรว์เลอร์ 

เป็นเครื่องบินขับไล่โจมตีแบบที่ก้าวหน้ากว่า เอฟ-18 ซูเปอร์ ฮอร์เน็ต สามารถต่อสู้กับระบบต่อต้านอากาศยานของฝ่ายศัตรูได้ โดยใช้เทคนิคในการส่งคลื่นสัญญาณรบกวน โกรว์เลอร์เป็นเครื่องบินที่มีประสิทธิภาพสำหรับใช้เป็นเครื่องบินคุ้มกันเครื่องบินโจมตี เป็นเครื่องบินที่สามารถออกปฏิบัติการได้ทั้งจากภาคพื้นดินและเรือบรรทุกเครื่องบิน

เอฟ-15อี สไตร์ค อีเกิล

เป็นเครื่องบินขับไล่ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถต่อสู้ในอากาศและโจมตีทางภาคพื้นดินได้ เคยออกปฏิบัติการโจมตีกลุ่มไอเอสมาแล้ว บินได้ในระดับเพดานบินต่ำและในทุกสภาพอากาศ ตอนนี้ประจำการอยู่ที่ฐานทัพในกาตาร์ พร้อมกับเครื่องบินทิ้งระเบิดบี-1บี

บี-1บี แลนเซอร์

เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์พิสัยไกล ถูกนำไปใช้ในปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายกลุ่มไอเอสทางเหนือของซีเรีย สามารถบรรทุกอาวุธได้เป็นจำนวนมาก และติดตามเป้าหมายพาหนะที่กำลังเคลื่อนที่ได้

โดรนพรีเดเตอร์

เป็นอากาศยานไร้คนขับที่กองทัพสหรัฐฯ ใช้ทั้งสำหรับการลาดตระเวนและโจมตีในภูมิภาค นอกจากนั้นยังมีอากาศยานไร้คนขับของอิตาลีอีก 2 เครื่อง ซึ่งใช้งานเฉพาะภารกิจลาดตระเวนเท่านั้น

ภาพ reuters