ไอเอสเปลี่ยนกลยุทธ์ หันมาก่อเหตุร้ายข้ามชาติมากขึ้น

เหตุก่อการร้ายที่กรุงปารีสเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 พ.ย.) เผยให้เห็นกลยุทธ์ใหม่ของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่หันไปก่อเหตุร้ายในต่างประเทศมากขึ้น แฟรงค์ การ์ดเนอร์ ผู้สื่อข่าวสายความมั่นคงของบีบีซีบอกว่า การเปลี่ยนแปลงยุทธวิธีของไอเอสดังกล่าวบ่งชี้ว่า มีโอกาสที่จะเกิดเหตุก่อการร้ายในยุโรปเพิ่มขึ้น
ผู้สื่อข่าวบอกว่า เมื่อปีก่อนไอเอสมุ่งเน้นรักษาดินแดนภายใต้การยึดครองของตนในตะวันออกกลาง ซึ่งแกนนำไอเอสยังคงมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นภารกิจสำคัญที่สุด แต่ขณะเดียวกันไอเอสก็ทราบดีว่ามีนักรบจีฮัดที่สนใจเข้าร่วมกลุ่มจากทั้งในยุโรปและประเทศอื่น ซึ่งนั่นทำให้ไอเอสเริ่มหันไปมองถึงกลยุทธ์ในการก่อเหตุร้ายในต่างประเทศมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ไอเอสอ้างว่าอยู่เบื้องหลังเหตุกราดยิงที่ชายหาดเมืองซูส ของตูนีเซีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 38 ราย ในจำนวนนั้น 30 รายเป็นนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ส่วนเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ตุรกีก็ระบุว่าไอเอสเป็นผู้ก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในกรุงอังการาซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไป 102 ราย จากนั้นในช่วงปลายเดือนเดียวกันกลุ่มติดอาวุธในคาบสมุทรไซนายที่เกี่ยวข้องกับไอเอสก็อ้างว่าเป็นผู้ทำให้เครื่องบินโดยสารรัสเซียตก ส่งผลให้คนบนเครื่องทั้งหมด 224 รายเสียชีวิต
ส่วนเมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา ไอเอสอ้างว่าได้ก่อเหตุระเบิดโจมตีฐานที่มั่นกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ทางภาคใต้ของเบรุต ทำให้มีผู้เสียชีวิต 44 ราย และถัดจากนั้นเพียงหนึ่งวันก็เกิดเหตุโจมตีในกรุงปารีสทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 120 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย
ผู้สื่อข่าวบีบีซี บอกว่าการโจมตีเหล่านี้ ทำกันเป็นขบวนการและมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาผู้ลงมือก่อเหตุ, การฝึกซ้อม, จัดหาอาวุธและวัตถุระเบิด รวมทั้งการสอดแนมเป้าหมาย ซึ่งมีลักษณะคล้ายยุทธวิธีของกลุ่มอัลไคด้า ในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 2000 ที่เป็นการก่อเหตุร้ายครั้งใหญ่เพื่อสร้างชื่อให้ตนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
ก่อนหน้านี้บรรดาเจ้าหน้าที่ด้านต่อต้านการก่อการร้ายต่างมีข้อสรุปว่า แม้จะยังมีผู้ต้องการก่อเหตุร้ายครั้งใหญ่ ๆ อยู่ แต่ภัยคุกคามที่มีแนวโน้มเกิดขึ้นมากที่สุดน่าจะเป็นพวกที่วางแผนและก่อเหตุเองตามลำพัง เหมือนกรณีที่คนร้ายสังหารทหารอังกฤษใกล้กับกรุงลอนดอนเมื่อ 2 ปีก่อน โดยอ้างว่าเป็นการล้างแค้นที่กองทัพอังกฤษสังหารชาวมุสลิม อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวบีบีซีบอกว่าเหตุก่อการร้ายที่เกิดขึ้นในกรุงปารีสและที่อื่น ๆ แสดงให้เห็นแล้วว่า ผู้เชี่ยวชาญจะต้องทบทวนข้อสรุปดังกล่าวเสียใหม่
นอกจากนี้การที่ประเทศต่างๆ เช่น ตุรกีปิดพรมแดนที่ติดกับซีเรีย ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ไอเอสหันมาดำเนินกลยุทธ์ใหม่ เพราะความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อการที่นักรบจีฮัดจากยุโรปจะเดินทางเข้าไปร่วมรบกับไอเอส ดังนั้นไอเอสจึงใช้วิธีหาคนเข้ากลุ่มทางอินเทอร์เน็ตแล้วเสี้ยมสอนให้คนเหล่านี้อยู่ในประเทศของตนและวางแผนก่อเหตุที่นั่นแทน ผู้สื่อข่าวบีบีซีบอกว่า นั่นทำให้สามารถคาดการณ์ในระยะสั้นได้ว่า มีโอกาสที่จะเกิดเหตุก่อการร้ายในยุโรปเพิ่มมากขึ้น ‪#‎ParisAttacks‬