ประธานาธิบดีอียิปต์ชี้ไอเอสแอบอ้างโฆษณาชวนเชื่อว่าทำเครื่องบินรัสเซียตก

นายอับเดล-ฟัตตาห์ อัล ซิซี ประธานาธิบดีอียิปต์ ระบุยังเร็วเกินไปที่จะสรุปสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินโดยสารของสายการบินโคกาลิมาเวียตก แต่เขาเห็นว่าการกล่าวอ้างของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) เป็นการโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อทำลายเสถียรภาพ ความมั่นคงและภาพลักษณ์ของอียิปต์ ประธานาธิบดีอียิปต์ซึ่งกล่าวกับบีบีซียังย้ำด้วยว่าอียิปต์เป็นผู้คุมสถานการณ์ในคาบสมุทรไซนาย

เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา เครื่องบินแอร์บัส เอ 331 เที่ยวบิน #KGL9268 ตกบริเวณคาบสมุทรไซนาย หลังทะยานขึ้นจากท่าอากาศยานในเมืองชาร์ม เอล ชีค ได้เพียง 23 นาที ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือ 224 คน เสียชีวิตทั้งหมด

ด้านนายเจมส์ แคลปเปอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวว่า ยังไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ความเกี่ยวโยงกันระหว่างเครื่องบินตกกับการก่อการร้าย และแม้สิ่งนี้จะดูไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตก แต่ก็ยังไม่ได้ตัดประเด็นนี้ทิ้งไปเสียทีเดียว

ทั้งนี้ กลุ่มติดอาวุธในพื้นที่ได้ก่อจลาจลในคาบสมุทรไซนายหลังเหตุการณ์โค่นล้มประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค เมื่อปี 2554 และโจมตีหนักข้อขึ้นหลังกองทัพโค่นอดีตประธานาธิบดีมูฮัมหมัด มอร์ซี เมื่อกลางปี 2556 ขณะที่เมื่อราวหนึ่งปีที่ผ่านมา กลุ่มติดอาวุธได้ประกาศตัวเป็นพันธมิตรกับกลุ่มไอเอส ภายใต้ชื่อกลุ่มไซนาย โพรวินซ์ ซึ่งได้ลงมือปฏิบัติการสังหารทั้งตำรวจและทหารไปหลายร้อยนาย

หลังเกิดเหตุเครื่องบินตก กลุ่มไซนาย โพรวินซ์ ได้ออกแถลงการณ์และข้อความเสียงระบุว่าเป็นผลงานของตน อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญหลายคนไม่เชื่อว่าอาวุธที่กลุ่มมีในครอบครองจะมีความสามารถพอที่จะยิงเครื่องบินให้ตกได้

เมื่อวานนี้ นายอเล็กซานเดอร์ สมีร์นอฟ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการบิน โคกาลิมาเวีย ของรัสเซีย กล่าวในระหว่างการแถลงข่าว โดยตัดประเด็นเรื่องข้อขัดข้องทางเทคนิคและความผิดพลาดของนักบิน เขาชี้ว่า การที่เครื่องบินถูกทำลายกลางอากาศได้ก็เพราะถูกแรงกระแทกซึ่งมีผลโดยตรงกับตัวเครื่องบิน

อย่างไรก็ดี สถานีโทรทัศน์ซีบีเอสของสหรัฐฯ รายงานว่าดาวเทียมของสหรัฐฯ จับคลื่นความร้อนเฉียบพลันเหนือคาบสมุทรไซนายขณะที่เกิดเหตุเครื่องบินโดยสารตกได้ และกำลังวิเคราะห์ข้อมูลอยู่ ซึ่งเชื่อว่าคลื่นความร้อนที่ว่าอาจมีต้นเหตุมาจากระเบิด หรือการระเบิดของถังน้ำมัน หรือเครื่องยนต์