จุดไฟเผาบนเครื่องบิน รวบหนุ่มจีนบ้าระห่ำ!

จุดไฟเผาบนเครื่องบิน รวบหนุ่มจีนบ้าระห่ำ!

ระทึก!หนุ่มจีนจุดไฟเผาภายในเครื่องบินโดยสาร ขณะเครื่องกำลังร่อนลงจอดสนามบินเมืองกว่างโจวช่วงกลางดึก สจ๊วร์ตและผู้โดยสารช่วยกันรวบตัวส่งตำรวจสนามบิน


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ว่า เกิดเหตุชายชาวจีนที่ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อแซ่รายหนึ่ง 

พยายามจุดไฟเผาภายในเครื่องบินโดยสาร เที่ยวบิน เซดเอช 9648 ของสายการบินเสิ้นเจิ้น แอร์ไลน์ส ขณะที่เครื่องบินกำลังลดระดับลงจอดที่สนามบินเมืองกว่างโจว เมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ แต่ถูกพนักงานต้อนรับบนเครื่อง และผู้โดยสารอื่น ๆ ช่วยกันควบคุมตัว และนำตัวส่งตำรวจสนามบิน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังเครื่องบินลงจอด เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. รุ่งสางวันอาทิตย์ รายงานระบุอีกว่า เที่ยวบินดังกล่าวเป็นเที่ยวบินโดยสารภายในประเทศ บรรทุกผู้โดยสาร 95 คน นักบินและพนักงานต้อนรับบนเครื่อง 9 คน ออกเดินทางจากสนามบินเมืองไถโจว มณฑลเจ้อเจียง ทางภาคตะวันออกตอนกลาง มุ่งหน้าลงใต้สู่เมืองกว่างโจว ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

 โดยจากภาพถ่ายที่ถูกโพสต์ลงในเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง แสดงให้เห็นที่นั่งผู้โดยสารที่หนึ่งถูกไฟไหม้ดำบางส่วน รวมทั้งคราบเขม่าไฟที่บริเวณประตูทางออกฉุกเฉิน 

ที่อยู่ใกล้กับที่นั่ง รายงานในเว็บไซต์ของศูนย์ข้อมูลการบินพลเรือนจีน Civil Aviation Resource Net of China ระบุว่า ชายรายดังกล่าว "พยายามวางเพลิง" และถูกตำรวจควบคุมตัวสอบปากคำ เพื่อหาแรงจูงใจในการก่อเหตุ ขณะที่แถลงการณ์ของ เสิ่นเจิ้น แอร์ไลน์ส ยืนยันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่เผยรายละเอียดเพิ่มเติม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงความหละหลวมอย่างร้ายแรง ของระบบรักษาความปลอดภัยของสนามบินเมืองไถโจว เนื่องจากกฎขององค์การบินพลเรือนจีนห้ามนำที่จุดบุหรี่ และวัสดุติดไฟ ซึ่งรวมถึงสุราขึ้นบนเที่ยวบินโดยสารโดยเด็ดขาด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นหนึ่งในหลายเหตุการณ์อันตราย ที่เกิดขึ้นกับเที่ยวบินโดยสารของจีน เช่น ผู้โดยสารพยายามเปิดประตูทางออกฉุกเฉิน ขณะที่เครื่องบินกำลังบินอยู่บนอากาศ หรือเกิดเหตุทะเลาะวิวาทรุนแรง ทำร้ายร่างกายกันระหว่างผู้โดยสารด้วยกัน หรือผู้โดยสารกับพนักงานต้อนรับบนเครื่อง เป็นต้น.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์