นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค ต้องสงสัยยักยอกเงินเข้ากระเป๋าอื้อ เคสแรกในประวัติศาสตร์
อับดุล กานี พาเทล ตุลาการสูงสุดมาเลเซีย เปิดเผยว่า ได้รับเอกสารตรวจสอบที่พบสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับกองทุนพัฒนามาเลเซียเบอร์ฮัด (1เอ็มดีบี) ซึ่งเป็นกองทุนพัฒนาเศรษฐกิจด้านพลังงาน อสังหาริมทรัพย์ การท่องเที่ยว และธุรกิจการเกษตรของรัฐบาล ซึ่งขาดทุนสะสม 42 ล้านริงกิต (ราว 383 ล้านบาท) นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 เมื่อมีการโอนเงินจากกองทุนดังกล่าวไปยังบัญชีส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค แห่งมาเลเซีย
ตุลาการสูงสุดของมาเลเซีย ระบุว่า เอกสารดังกล่าวอาจนำไปสู่ความผิดทางอาญา และหากเป็นคดีอาญาจริง จะถือเป็นคดีทางอาญาคดีแรกของมาเลเซียที่มีผู้ต้องสงสัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทีเดียว นอกจากนั้นจะมีการตรวจสอบบริษัทเอกชน 3 แห่ง ที่มีความเกี่ยวข้องกับการลักลอบโอนเงินจากกองทุนดังกล่าว
ด้าน วัน ไซฟุล วัน จัน ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อประชาธิปไตยและเศรษฐกิจ องค์กรคลังสมองของมาเลเซีย เปิดเผยว่า การสืบสวนดังกล่าวเป็นหายนะสำหรับนายกรัฐมนตรี นาจิบ และเป็นครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรีอาจเผชิญกับความผิดทางอาญา
“แม้การสืบสวนจะไม่ได้ผลอะไรออกมาเลย แต่ความเสียหายต่อชื่อเสียงของนาจิบก็เกิดขึ้นแล้ว แรงกดดันให้นาจิบลงจากตำแหน่งจะเพิ่มขึ้น” วัน ไซฟุล กล่าว
การเปิดเผยดังกล่าวมีขึ้นภายหลังจากที่หนังสือพิมพ์วอลสตรีท เจอร์นัล รายงานไปเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า มีเงินมูลค่า 700 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 2.3 หมื่นล้านบาท) ที่เกี่ยวข้องกับกองทุนรัฐ ถูกโอนเข้าบัญชีนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย
วอลสตรีท เจอร์นัล ระบุว่า การโอนเงินดังกล่าวเกิดขึ้นทั้งหมด 5 ครั้ง โดย 2 ครั้งที่มีการโอนเงินมากมูลค่าสูงสุดที่ 620 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 61 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงปี 2013 ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปของมาเลเซีย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียออกมาปฏิเสธการรายงานดังกล่าว และระบุว่า รายงานดังกล่าวเป็นการบ่อนทำลายทางการเมือง โดย มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่อยู่ในตำแหน่งมากถึง 22 ปี และเป็นผู้มีอิทธิพลทางการเมือง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า มหาเธร์และนักวิจารณ์คนอื่นๆ ได้วิพากษ์วิจารณ์และแสดงความกังวลต่อกองทุนดังกล่าวในด้านหนี้สินมหาศาล 42 ล้านริงกิต และความโปร่งใสของโครงการดังกล่าว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
