ตชด.ส่งฮ.ขึ้นบินสำรวจ สกัดเส้นทางค้าโรฮีนจา คุมเข้มจากสตูล-สงขลา
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวรอบโลก ตชด.ส่งฮ.ขึ้นบินสำรวจ สกัดเส้นทางค้าโรฮีนจา คุมเข้มจากสตูล-สงขลา
จากกรณีชาวโรฮีนจาเหยื่อค้ามนุษย์ 11 คน ที่อยู่ภายในสถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ต.กำแพงเพชรอ.รัตภูมิ จ.สงขลา ได้หลบหนีออกไปเมื่อคืนวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมานั้น ความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตภูมิ และฝ่ายปกครองอำเภอรัตภูมิ สามารถติดตามกลับมาได้แล้ว 6 คน ซึ่งหนีไปซ่อนตัวอยู่ในป่าพื้นที่หมู่ 11 บ้านนิคม ต.กำแพงเพชร ไม่ไกลจากสถานคุ้มครอง หลังจากที่ได้รับความร่วมมือจากชาวบ้าน ช่วยแจ้งเบาะแสและนำตัวกลับมาควบคุมที่ศูนย์คุ้มครอง
ส่วนผู้ที่ยังหลบหนีอยู่อีก 5 คนนั้น เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งค้นหาอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าน่าจะยังหนีไปไม่ไกล โดยได้ประสานไปยังฝ่ายปกครองต.กำแพงเพชร และชาวบ้านในพื้นที่ให้ช่วยเฝ้าติดตาม พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลชาวโรฮีนจาที่มีอยู่อีกกว่า 100 คน ที่อยู่ภายสถานคุ้มครองแห่งนี้ เพื่อป้องกันการหลบหนี เนื่องจากหลายคนอยู่ในสภาพที่กดดัน และพยายามที่จะหลบหนีเพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศที่สาม
วันเดียวกัน ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค9 ส่วนหน้า(ศปก.ภ.9สน.) สถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่จ.สงขลา พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ยังคงลงพื้นที่ ติดตามและเร่งรัดด้านการสอบสวนให้แล้วเสร็จทันส่งให้พนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาในวันที่ 19 มิถุนายนนี้ เนื่องจากมีข้อจำกัดในเรื่องของเวลาที่ต้องให้เสร็จภายใน 84 วัน ซึ่งครบกำหนดควบคุมผู้ต้องหาคนแรกเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะนี้พนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการต้องทำงาน 24 ชม. ไม่มีวันหยุด
ส่วนภาพรวมของการสอบสวนขณะนี้ไม่มีประเด็นใดที่น่าเป็นห่วงและเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ทุกอย่าง ขณะที่หมายจับยังอยู่ที่ 84 หมาย ควบคุมตัวได้แล้ว 53 คนและหลบหนีอีก 31 คน ส่วนการที่จะออกหมายจับเพิ่มเติมหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับพยานและหลักฐาน
ต่อมา เวลา 15.00 น. พล.ต.อ.เอก ได้ประชุมหารือกับ เรือโทสมนึก เสียงก้อง รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน อัยการเขต ตำรวจภูธรภาค8และภาค9 เพื่อสรุปความคืบหน้าของคดีและแก้ปัญหาจุดบกพร่องรวมทั้งวางกรอบแนวทางการดำเนินการหลังส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดพิจารณาและส่งคดีกลับมาเพื่อฟ้องศาล ทั้งนี้ในวันที่ 9 มิถุนายน พล.ต.อ.เอก จะลงพื้นที่ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีเครือข่ายการค้ามนุษย์ชาวโรฮินจา ที่ จ.สตูล
ด้าน นายรัชฐพนธ์ ณ อุบล นายอำเภอเมืองสตูล เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กำนันผู้ใหญ่บ้านและชุดรักษาความสงบในหมู่บ้าน(ชรบ. ) กำลังผสมร่วมกับอาสาสมัครในหมู่บ้านทั้งตำรวจชุมชน และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน(อส.) ที่อยู่ในความดูแลของอำเภอเมืองสตูล ทั้ง 70 หมู่บ้าน ในทุกพื้นที่ทั้งทางบก ในป่า และทางทะเลตามเกาะแก่ง ที่เคยเป็นเส้นทางขนลำเลียงกลุ่มชาวโรฮินจาในอดีต โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนติดแนวเขตทะเลอันดามัน กับประเทศเพื่อนบ้าน ให้นำเรือตรวจการณ์ออกตรวจเข้มทางทะเล และตามเกาะแก่ง ไปจนถึงแนวเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา รวมทั้งให้มีการตั้งด่านสกัดกั้น ตรวจตรา เนื่องจากเกรงว่าอาจมีนายหน้านำชาวโรฮีนจามาปล่อยไว้ หลักจากมีการปราบปรามอย่างหนัก นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือกับทางโรงงานที่ลักลอบใช้แรงงานต่างด้าว หรือที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนให้รีบดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย
วันเดียวกัน ที่สนามบินตำรวจตระเวนชายแดนที่43 พ.ต.อ.พหล เกตุแก้ว ผกก.ตชด.ที่43 มอบหมายให้ พ.ต.ท.พิภพ พรหมยก รอง ผกก.ตชด.ที่43 นำเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบิน ตรวจสอบเส้นทางที่ชาวโรฮีนจาใช้เป็นเส้นทางผ่านจาก จ.สตูล ทางสันเขาการาคีรีมาที่เทือกเขาแก้ว ซึ่งขณะนี้ตำรวจตระเวนชายแดนได้วางกองกำลังปิดเส้นทางตามยุทธศาสตร์ตำรวจภูธรภาค 9 ตามแผนปิดปลายทางข้ามไปยังมาเลเซีย โดยวันนี้ ได้นำเสบียงอาหารน้ำดื่มมาส่งให้กับกองกำลังบนเทือกเขาแก้วด้วย จากนั้นได้บินสำรวจบนเทือกเขาแก้วและสันเขาการาคีรีที่เชื่อมต่อจ.สงขลากับ จ.สตูล และได้บินตรวจสอบไปถึงบริเวณท่าเทียบเรือปากบารา จ.สตูล ที่ออกไปสู่ทะเลอันดามัน ซึ่งมีลำคลองหลายสายที่เป็นเส้นทางลักลอบลำเลียงชาวโรฮีนจาเข้ามาในประเทศไทย