สะเทือนอารมณ์ อัยการสลด เผชิญหน้าเหยื่อบริสุทธิ์ติดคุกฟรี 30 ปี บอกเป็นตราบาปตลอดชีวิตผม
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวรอบโลก สะเทือนอารมณ์ อัยการสลด เผชิญหน้าเหยื่อบริสุทธิ์ติดคุกฟรี 30 ปี บอกเป็นตราบาปตลอดชีวิตผม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุสะเทือนอารมณ์ เมื่ออัยการรายหนึ่งได้เผชิญหน้ากับเหยื่อบริสุทธิ์ ผู้ถูกเขาทำคดีให้ต้องติดคุก 30 ปีโดยไม่ได้กระทำความผิดจริง โดยอัยการผู้นี้ได้พยายามขอโทษอย่างเต็มที่ แต่อีกฝ่ายบอกว่า เขาไม่มีวันอภัยได้ จากกับชะตากรรมที่เขาต้องเผชิญ
รายงานระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในรายการ"ไนท์ไลน์"ของสถานีโทรทัศน์"เอบีซี"ของสหรัฐ ซึ่งได้นำทั้งสองมาสัมภาษณ์ออกรายการ โดยก่อนหน้านี้นายมาร์ตี้ สตราด์ อัยการรัฐได้ว่าความโดยผิดพลาดกล่าวหานายเกล็น ฟอร์ด ว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆาตกรรมหญิงรายหนึ่งระหว่างเหตุการณ์ปล้นที่เกิดขึ้นในร้านเพชร เมื่อปี 1983 ทำให้นายเกล็นต้องติดคุกเป็นเวลาถึง 30 ปีทั้งที่เป็นผู้บริสุทธิ์
โดยเมื่อเผชิญหน้ากัน อัยการผู้นี้ได้กล่าวขอโทษอย่างสำนึกผิด บอกว่า"มันเป็นตราบาปที่จะติดตัวผมไปตลอดถึงหลุมศพ และผมไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนดีแม้แต่น้อย และว่า ผมรู้สึกเสียใจมาก" ขณะที่นายเกล็นซึ่งปัจจุบันป่วยเป็นมะเร็งตับ บอกว่า"ผมไม่สามารถยกโทษให้คุณได้ เพราะผมต้องติดคุุกถึง 30 ปี และที่สุดแล้ว ออกจากคุกมา ผมก็ต้องเตรียมตัวตายเพราะมะเร็งนี้ ซึ่งผมเหลือเวลาอยู่ได้แค่ 6-8 เดือนเท่านั้น"
ทั้งนี้ การเผชิญหน้านี้มีขึ้นตามคำขอของอัยการผู้ผิดบาปรายนี้ ที่ได้เขียนจดหมายถึงหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น แสดงความโกรธที่นายเกล็นไม่สามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายต่อรัฐจากกรณ๊ติดคุกอย่างไร้ความผิดได้
รายงานระบุว่า การเผชิญหน้านี้มีขึ้นตามคำขอของอัยการผู้ผิดบาปรายนี้ ที่ได้เขียนจดหมายถึงหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น แสดงความโกรธที่นายเกล็นไม่สามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายของรัฐได้ โดยจดหมายของอัยการผู้นี้ยังระบุว่า"ตามหลักฐานของผม เชื่อว่ามีการลงโทษชายบริสุทธิ์ และผมจะไม่ขอส่งข้อมูลตรวจสอบที่ผมเห็นว่าเป็นหลักฐานเท็จที่เราได้กระทำต่อชายผิดคน และว่า จิตสำนึกของผมผิดเพี้ยน และผมมืดบอดต่ออุดมการณ์ที่จะต้องสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้น แทนที่จะมอบการตัดสินโทษให้บุคคลที่เชื่อว่าเขาผิดจริง พร้อมทั้งปฎิเสธว่า เขาไม่เคยซ่อนหลักฐานใด ๆ แต่อย่างใด
ทั้งนี้ สำหรับนายเกล็นได้ถูกศาลสั่งประหารจากคดีดังกล่าว แต่เขาได้ยื่นอุทหรณ์ถึงสามครั้ง ก่อนที่ในปี 2000 ศาลสูงรัฐหลุยเซียน่าได้สั่งให้มีการไต่สวนข้ออ้างของนายเกล็นที่ว่า อัยการได้เก็บงำหลักฐานที่ถือว่าสำคัญต่อนายแจ๊ค และนายเฮ็นรี่ โรบินสัน สองพี่น้องที่เกี่ยวข้องในคดีดังกล่าว
ก่อนที่ต่อมา ศาลได้พบหลักฐานที่สายสืบนิรนามรายหนึ่งได้บอกกับอัยการหลายคนเมื่อปี 2013 ว่า นายแจ๊ค โรบินสัน ยอมรับว่าเขาเป็นคนก่อเหตุฆาตกรรมนี้เอง และทำให้อัยการขอให้เลิกโทษประหารต่อนายเกล็น และความผิดฐานฆาตกรรม ก่อนที่นายเกล็นจะได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น