สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองดึสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ว่านายคริสตอฟ คุมปา อัยการกลางเมืองดึสเซลดอร์ฟ แถลงเมื่อวันจันทร์ เกี่ยวกับความคืบหน้าของการสืบสวนหาแรงจูงใจของนายอังเดรอาส ลูบิตซ์ นักบินผู้ช่วยของสายการบินเยอรมันวิงส์ ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่า "เจตนา" ขับเครื่องบินพุ่งเข้าชนกับเทือกเขาแอลป์ส ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส คร่าชีวิตตัวเองและผู้อยู่บนเครื่องอีก 149 คน เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ว่าก่อนสอบผ่านการบรรจุเป็นนักบิน ลูบิตซ์ต้องเข้ารับการบำบัดจากจิตแพทย์ "นานหลายปี" เนื่องจากมีแนวโน้ม "ต้องการฆ่าตัวตาย"
อย่างไรก็ตาม หลังเข้ารับการบำบัดมาได้ระยะหนึ่ง ผลการตรวจไม่มีการวินิจฉัยอีกว่า ลูบิตซ์มีทัศนคติ "เชิงบวก" เกี่ยวกับการฆ่าตัวตาย หรือแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวทางอารมณ์อีก นอกจากนี้ พนักงานสืบสวนยังไม่พบหลักฐานที่สามารถสนับสนุนสมมติฐานเรื่องการวางแผนก่อเหตุล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นจดหมายลาตาย หรือบันทึกคำสารภาพ
ถ้อยแถลงดังกล่าวของอัยการถือเป็นการเปิดเผยอย่างเป็นทางการครั้งแรกของเจ้าหน้าที่สืบสวน ในประเด็นการค้นหาแรงจูงใจในการก่อเหตุของลูบิตซ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์สมาชิกในครอบครัวและบุคคลใกล้ชิดของนักบินหนุ่มวัย 27 ปี และเอกสารทางการแพทย์ที่ค้นพบภายในอพาร์ตเมนต์ของลูบิตซ์ โดยมีรายงานด้วยว่าเอกสารหลายฉบับอยู่ในสภาพถูกฉีกขาด
ขณะที่สายการบินลุฟต์ฮันซา บริษัทแม่ของเยอรมันวิงส์ ออกแถลงการณ์ยืนยันมาตรฐานในการรับสมัครและสอบคัดกรองพนักงานในตำแหน่งนักบิน และประวัติส่วนตัวด้านสุขภาพของลูบิตซ์เป็นสิ่งที่สายการบินไม่เคยล่วงรู้มาก่อน เนื่องจากกฎหมายของเยอรมนีระบุว่านายจ้างไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนนี้ได้ หากไม่ได้รับการ "อนุญาต" จากลูกจ้าง เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของบุคคล แต่ประเด็นดังกล่าวได้รับการถกเถียงอย่างหนักตลอดมาในสังคมเยอรมัน โดยหลายฝ่ายมองว่าแพทย์มีสิทธิ์เปิดเผยข้อมูลส่วนนี้ได้ทันที หากพิจารณาพบว่า คนไข้อาจแสดงพฤติกรรมเป็น "อันตราย" ต่อสังคม
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
