ชายเกาหลีขอเยี่ยมทูตสหรัฐพร้อมอาหารจากเนื้อสุนัข

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ว่าโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยยอนเซในกรุงโซล สถานที่พักรักษาตัวของนายมาร์ค ลิพเพิร์ต เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเกาหลีใต้ ซึ่งได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าและแขนซ้าย จากการถูกคน้รายบุกจู่โจมประชิดตัวแล้วใช้มีดเป็นอาวุธทำร้าย ขณะร่วมงานเสวนาเรื่องความปรองดองบนคาบสมุทรเกาหลีเมื่อวันพฤหัสบดี เผยเรื่องการได้รับติดต่อจากชายอายุราว 70 ปี ซึ่งนำอาหารมาเยี่ยมลิพเพิร์ต

อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอาหารแล้วพบว่า ปรุงจากเนื้อสุนัข จึงจำเป็นต้องปฏิเสธและมอบอาหารทั้งหมดกลับคืนให้แก่ชายผู้หวังดี โดยให้เหตุผลเรื่องสุขภาพของผู้ป่วยและความปลอดภัย แม้นอกเหนือจากอาหารที่ปรุงจากเนื้อสุนัขจะมีซุปสาหร่ายเป็นเครื่องเคียงมาให้ด้วยก็ตาม ทั้งนี้ ชาวเกาหลีมีความเชื่อมาแต่โบราณว่า การรับประทานเนื้่อสุนัขหลังเข้ารับการผ่าตัดจะช่วยสมานแผลได้เร็วขึ้น

ขณะที่ศาลแขวงกรุงโซลมีคำสั่งเมื่อวันศุกร์ อนุมัติคำร้องของตำรวจ ในการออกหมายจับนายคิม คี-จอง วัย 55 ปี ในหลายข้อหาที่รวมถึง พยายามฆ่า ประทุษร้ายร่างกายนักการทูตต่างชาติ ขัดขวางกระบวนการยุติธรรม และละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ที่ห้ามมิให้ชาวเกาหลีใต้แสดงการสนับสนุนเกาหลีเหนือในที่สาธารณะ เนื่องจากก่อนเกิดเหตุเพียงเสี้ยววินาที คิมร้องตะโกนถ้อยคำสนับสนุนรัฐาลเปียงยางด้วย ก่อนถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ทันที

ด้านน.ส.มารี ฮาร์ฟ รองโฆษกหญิงกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวเรื่องการหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลโซล เรื่องการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้แก่ลิพเพิร์ตอย่างเป็นทางการ หลังมีรายงานว่า ลิพเพิร์ตมีเจ้าหน้าที่อารักขาส่วนตัวเพียงคนเดียว