'บิล เกตส์'รวยที่สุดในโลกเป็นปีที่16 'มาร์ค'อันดับขึ้นที่16'ธนินท์'ติด1ใน100
3 มี.ค.2558 นิตยสารฟอร์บส์ ประกาศอันดับมหาเศรษฐีโลกประจำปี 2557 เมื่อค่ำวันจันทร์โดยระบุว่า นาย บิล เกตส์ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ ครองตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกด้วยทรัพย์สิน 79,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.5 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 3,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับทรัพย์สินในปี 2557 แม้ว่านายเกตส์จะบริจาคหุ้นไมโครซอฟท์มูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์ให้กับมูลนิธิบิล และ เมลินดาเกตส์ เมื่อเดือนพ.ย. 2557
ส่วนมหาเศรษฐีที่รวยอันดับ 2 คือ นาย คาร์ลอส สลิม เจ้าของธุรกิจโทรคมนาคมของเม็กซิโก มีทรัพย์สิน 77,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามด้วยอันดับ 3 นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนชาวอเมริกัน ประธานบริษัทเบิร์กไชร์ แฮทอะเวย์ มีทรัพย์สิน 72,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 14,500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดในบรรดามหาเศรษฐีทั้งหมด แม้บริจาคให้การกุศล 2,800 ล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค.ปีที่แล้ว
อันดับ 4 ได้แก่ นายอะมานชิโอ ออร์เตกา ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท อินดิเท็กซ์ เจ้าของธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่นแบรนด์ดังต่างๆ รวมทั้ง ซารา มีทรัพย์สิน 64,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอันดับ 5 แลร์ลี เอลลิสัน ประธานบริษัทออราเคิล คอร์ป มีทรัพย์สิน 54,300 ล้านดอลลาร์
ส่วนนายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ร่วมก่อตั้งเฟซบุ๊ก มีอันดับดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว 5 อันดับขึ้นไปอยู่อันดับ 16 ทำให้ติดกลุ่มมหาเศรษฐีโลก 20 อันดับแรกเป็นครั้งแรกและนายแจ็ค หม่า เจ้าของเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ อาลีบาบา ที่ร่ำรวยจากการขายหุ้นไอพีโอของอาลีบาบา จนทำให้เป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของจีนเมื่อปี 2557 ติดอยู่ในกลุ่ม 50 เศรษฐีโลกร่วมกับเศรษฐีจีนอีก 2 คน
นอกจากนี้มีมหาเศรษฐีไทย 2 คนติดอยู่ใน 100 อันดับแรกด้วยได้แก่ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ ติดอันดับ 81 ด้วยทรัพย์สิน 13,600 ล้านดอลลาร์ และนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการบริษัทไทยเบฟเวอเรจ เจ้าของบริษัทเบียร์ช้าง ติดอันดับ 87 ด้วยทรัพย์สิน 13,200 ล้านดอลลาร์
ฟอร์บส์ระบุด้วยว่าจำนวนมหาเศรษฐีพันล้านของโลกเพิ่มขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ถึง 1,826 คน ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 1,645 คนในปีที่แล้ว และมีทรัพย์สินรวมกัน 7.05 ล้านล้านดอลลาร์ สหรัฐยังคงมีเศรษฐีพันล้านมากที่สุด 536 คนตามด้วยจีน 213 คน เยอรมนี 103 คน และอินเดีย 90 คน ปัจจัยจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับยูโร และราคาน้ำมันที่ตกลงอย่างมากมีผลสำคัญต่ออันดับ มหาเศรษฐีในปีนี้ และรัสเซีย ที่ประสบปัญหาเงินรูเบิลและราคาน้ำมันตกต่ำ มีมหาเศรษฐีพันล้านลดลงเหลือ 88 คนจาก 111 คน