กัปตันบินมรณะไต้หวันจับจอยสติ๊กจนสิ้นลม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงไทเป สาธารณรัฐจีน ( ไต้หวัน ) เมื่อวันที่ 6 ก.พ. อ้างข้อมูลจากแห่งข่าวซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกรณีเครื่องบินโดยสารของสายการบินทรานส์เอเชีย เที่ยวบิน จีอี 235 ประสบอุบัติเหตุตกในเม่น้ำกีหลง ทางตอนเหนือของกรุงไทเป ระหว่างเดินทางไปยังเกาะจินเหมิน เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ว่าหน่วยกู้ภัยพบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 35 ศพ จาก 58 คน แต่ยังมีผู้สูญหายอีก 12 คน
ทั้งนี้ ในจำนวนศพที่พบแล้วทั้งหมด หนึ่งในนั้นคือนายเลี่ยว เจียน-จง กัปตันประจำเที่ยวบิน วัย 42 ปี ซึ่งหน่วยกู้ภัยพบศพของเลี่ยวในสภาพที่มือยังจับจอยสติ๊กเอาไว้แน่น ขณะที่กระดูกขาทั้งสองข้างหักจนแตกละเอียด
สภาพศพของเลี่ยวในลักษณะดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ว่า เลี่ยวพยายามช่วยชีวิตผู้โดยสารทุกคนเอาไว้ให้ได้มากที่สุดจนวินาทีสุดท้าย ด้วยการพยายามนำเครื่องบินลงจอดบินผิวน้ำแทน เพื่อให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด เนื่องจากหากช้ากว่านี้แม้เพียงเสี้ยววินาที เครื่องบินอาจพุ่งชนเข้ากับสิ่งปลูกสร้างและก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงกว่านี้ได้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลในกล่องบันทึกข้อมูลการบินจะสามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนที่สุด ว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงนาทีสุดท้ายก่อนเครื่องตก
ขณะที่สำนักงานการบินพลเรือนไต้หวัน ( ซีเอเอ ) ประกาศบทลงโทษทรานส์เอเชียในขั้นต้น ด้วยการห้ามเปิดเส้นทางบินใหม่เป็นเวลา 1 ปี และตั้งคณะทำงานพิเศษตรวสจสอบโครงสร้างการทำงานของสายการบิน ไล่ตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงสุดลงมาจนถึงระดับล่างสุด โดยมุ่งเน้นกระบวนการฝึกฝนลูกเรือ หลังสั่งสายการบินสัญชาติไต้หวันทุกแห่งระงับการใช้เครื่องบินตระกูล เอทีอาร์ 72 ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่เที่ยวบิน จีอี 235 ใช้แล้ว แต่หนังสือพิมพ์ "แอปเปิ้ล เดลี" วิเคราะห์ว่า บทลงโทษควรรุนแรงกว่านี้ เช่นการระงับใบอนุญาต เนื่องจากการเกิดอุบัติเหตุ 2 ครั้งในเวลาเพียง 7 เดือนเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายยากจะรับได้
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนก.ค. ปีที่แล้ว เที่ยวบิน จีอี 222 ของทรานส์เอเชีย ตกกระแทกพื้นในเขตที่อยู่อาศัยบนเกาะเผิงหู ทางตะวันตกของไต้หวัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 48 ศพ ในจำนวนนี้ 2 ศพเป็นชาวฝรั่งเศส และได้รับบาดเจ็บ 10 คน