ล่าสุด นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นยืนกรานไม่ให้ไอเอสทำร้ายตัวประกันชาวญีปุ่น เขากล่าวว่าการข่มขู่เช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ ชีวิตของตัวประกันมีความสำคัญเป็นอันดับแรก และเขาจะไม่ยอมให้ผู้ก่อการร้ายสังหารตัวประกันทั้งสอง
ขณะนี้นายอาเบะอยู่ที่กรุงเยรูซาเล็ม ระหว่างการเยือนตะวันออกกลาง 6 วัน แต่เขาอาจยกเลิกการเดินทางที่ยังเหลืออยู่แล้วรีบกลับญี่ปุ่นเพื่อจัดการกับปัญหานี้
ในการแถลงข่าวที่กรุงเยรูซาเล็ม นายอาเบะกล่าวว่าเขาไม่พอใจอย่างมากกับคำขู่ของกลุ่มไอเอสและเรียกร้องให้ปล่อยตัวประกันทันที
นายอาเบะย้ำว่ากลุ่มติดอาวุธคลั่งลิทธิหัวรุนแรงกับอิสลามนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิงสังคมโลกจะไม่ยอมจำนนต่อผู้ก่อการร้ายในทุกรูปแบบและเราต้องทำให้เกิดความมั่นใจว่าเราทุกคนได้ทำงานนี้ร่วมกัน
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวด้วยว่าญี่ปุ่นจะยังคงมอบเงินช่วยเหลือ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐในส่วนที่ไม่เกี่ยวกับกิจการทหารให้กับประเทศที่กำลังต่อสู้กับกลุ่มไอเอส
สำหรับตัวประกันสองคนคือเคนจิ โกโต และฮารุนะ ยูคาวะนั้น รายงานข่าวกล่าวว่าไม่รู้จักกันมาก่อน จนกระทั่งพวกเขาได้ร่วมเดินทางในตะวันออกกลางด้วยกัน
โกโตเป็นนักข่าวอิสระจากโตเกียวผู้มีชื่อเสียงกับรายงานข่าวที่มีสีสันของเขาจากสถานที่ที่มีความยากลำบากทั่วโลก เขาเขียนหนังสือหลายเล่มเกี่ยวกับผลกระทบของเอดส์ในแอฟริกาและได้รับว่าจ้างจากหลายสำนักข่าวชื่อดังในญี่ปุ่นให้รายงานข่าวจากพื้นที่ต่างๆ ในอัฟกานิสถาน โซมาเลีย อิรักตลอดจนพื้นที่อันตรายอื่นๆ ทั่วอาฟริกาและเอเชีย
โกโตและยูคาวะพบกันครั้งแรกในปี 2013 ขณะเตรียมเดินทางไปกรุงแบกแดด โกโตเคยให้สัมภาษณ์ว่ายูคาวะมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับกองกำลังซีเรียเสรีซึ่งเป็นหนึ่งในฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย
ข่าวแจ้งว่ายูคาวะเคยถูกจับโดยกลุ่มกองกำลังรัฐอิสลามทางตอนเหนือของซีเรีย แต่รายละเอียดยังไม่เป็นที่กระจ่างชัด
ภาพล่าสุดในหน้าเฟสบุ๊คของยูคาวะเป็นภาพของเขายืนเคียงข้างกลุ่มกบฎติดอาวุธในทะเลทราย ยูคาวะอ้างในประวัติของเขาว่าเขาเป็นซีอีโอขององค์กร Private Military Company ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่โตเกียว
ยูคาวะมักแสดงตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทหาร เขามีความสนใจในเรื่องสงครามมากและพยายามจะเข้าไปมีส่วนในการสู้รบในซีเรีย