สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเอดดีวิลล์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ว่า ตำรวจรัฐเคนทักกี ทางตะวันออกของสหรัฐ ได้รับแจ้งเหตุเครื่องบินโดยสารขนาดเล็กตกในลีออนเคาน์ตี เมื่อช่วงค่ำวันศุกร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น หลังเข้าตรวจสอบในพื้นที่ เจ้าหน้าที่พบซากเครื่องบินในป่ารกทึบใกล้ทะเลสาบเคนทักกีซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง และพบผู้เสียชีวิต 4 ราย เป็นผู้โดยสาร 3 ราย และนักบิน 1 ราย ชาวบ้านผู้แจ้งเหตุเล่าว่า มีเด็กหญิงวัย 7 ปี คนหนึ่ง เดินออกจากป่ามาขอความช่วยเหลือจากเขาซึ่งเป็นบ้านหลังที่อยู่ใกล้ที่สุด โดยระบุว่าเธอเป็นผู้รอดชีวิตจากเหตุดังกล่าว ซึ่งเธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา แม้จะไม่มีการบาดเจ็บร้ายแรง แต่สภาพจิตใจยังคงบอบช้ำอยู่มาก
หลังการตรวจสอบไปยังสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (เอฟเอเอ) เจ้าหน้าที่ได้รับการยืนยันว่า เครื่องบินโดยสารขนาดเล็ก รุ่น เปเปอร์ พีเอ-34 เครื่องยนต์คู่ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานเมืองแทลลาแฮสซีในรัฐฟลอริดา มุ่งหน้าสู่เมาต์เวอร์นอนในอิลลินอยส์ ขณะที่เด็กหญิงผู้รอดชีวิตแจ้งข้อมูลที่แตกต่างกันว่า เครื่องบินออกเดินทางจากเมืองคีย์เวสต์ทางตอนใต้ของรัฐฟลอริดา โดยหอบังคับการบินได้รับเแจ้งเหตุฉุกเฉินจากนักบิน รายงานปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้อง ก่อนจะขาดการติดต่อไปขณะบินอยู่เหนือน่านฟ้าทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐเคนทักกี เมื่อเวลา 17.55 น. วันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น (06.55 น. วันเสาร์ ตามเวลาประเทศไทย)
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันตัวบุคคลของผู้ที่อยู่บนเครื่องทั้งหมดได้ และยังไม่ทราบแน่ชัดถึงความสัมพันธ์ของเด็กหญิงผู้รอดชีวิตและเหยื่อคนอื่นๆ โดยสาเหตุของการตกยังอยู่ในระหว่างสอบสวน ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ในบริเวณที่เกิดเหตุมีฝนตกเกือบตลอดทั้งวันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.