เจนีวา/วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) - องค์การอนามัยโลกแถลงแนวโน้มผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลาพุ่งแตะ 9,000 รายภายในสัปดาห์นี้ และอาจมีผู้ติดเชื้อรายหม่สูงถึง 10,000 รายต่อสัปดาห์ภายใน 2 เดือน
ดร. บรูซ ไอล์เวิร์ด ผู้ช่วยผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก หรือฮู หน่วยงานด้านสาธารณสุขของสหประชาชาติ
แถลงในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันอังคารว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลาในการระบาดครั้งใหญ่ที่สุดในแอฟริกาตะวันตก จะพุ่งทะลุ 9,000 รายในสัปดาห์นี้ และการระบาดจะยังคงขยายตัวในกินี, เซียร์รา ลีโอน และไลบีเรีย ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตจนถึงวันนี้ ตั้งแต่รายงานการระบาดครั้งแรกในกินีเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพิ่มเป็น 4,447 รายแล้ว จากผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 8,914 ราย ไอล์เวิร์ด กล่าวว่า แม้มีสัญญาณของอัตราการติดเชื้อช้าลงในหลายพื้นที่ที่มีการระบาด แต่ขณะนี้ การระบาดของโรคแทรกซึมเข้าไปในหลายอำเภอ หลายเมืองและหลายเขต มากกว่าเมื่อหนึ่งเดือนก่อน
และกล่าวว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะยังคงพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง ดร.ไอล์เวิร์ด
ยังกล่าวอีกว่า แอฟริกาตะวันตก อาจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึง 10,000 รายต่อสัปดาห์ภายใน 2 เดือนนี้ พร้อมยืนยันอัตราการเสียชีวิตจากการระบาดของอีโบลาในปัจจุบัน สูงถึงร้อยละ 70 ก่อนหน้านี้ ฮูประเมินว่า อัตราการเสียชีวิตจากเชื้ออีโบลา อยู่ที่ประมาณร้อยละ 50 แต่อัตราการเสียชีวิตใหม่นี้ ยืนยันได้ว่า การระบาดเพิ่มสูงขึ้น และฮูเองก็ยังคงพยายามที่จะแยกผู้ป่วย และให้การรักษาอย่างรวดเร็วเท่าที่จะเป็นไปได้
ส่วนความเคลื่อนไหวด้านอื่น ๆ สถานกงสุลและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐที่สนามบินในกรุงวอชิงตัน ชิคาโก แอตแลนตา และนวร์ก
จะเริ่มตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสารจาก 3 ประเทศแอฟริกาตะวันตก โดยจะเริ่มในวันพฤหัสบดีนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขส่วนกลาง แถลงว่า จะมีการเพิ่มจุดตรวจคัดกรองอีกชั้นหนี่งเพื่อหวังที่จะยุติการระบาดของอีโบลา ก่อนหน้านี้ สหรัฐได้เริ่มคัดกรองผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานนานาชาติจอร์ห เอฟ เคนเนดี ในนครนิวยอร์ก ด้านรัฐบาลอังกฤษ ก็ได้เริ่มคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางจากแอฟริกาตะวันตก ถึงสนามบินฮีโธรว์ ซึ่งเป็นสนามบินที่พลุกพล่านที่สุดในกรุงลอนดอนแล้วเมื่อวันอังคาร เพื่อควบคุมการระบาดของอีโบลา โดยเจเรมี ฮันต์ รัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษกล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า อังกฤษคาดว่า การควบคุมการระบาดของอีโบลา จะเห็นผลในอีก 3 เดือนข้างหน้า ขณะที่ ฝรั่งเศสและประเทศอื่น ๆ ในยุโรป กำลังพิจารณาที่จะเดินตามรอยสหรัฐและอังกฤษ ในการเริ่มตรวจสอบผู้โดยสารที่เดินทางด้วยเที่ยวบินจากประเทศแอฟริกาตะวันตกเช่นกัน