ทางการสหรัฐพบวอลรัสไม่ต่ำกว่า 35,000 ตัวลอยมาตายเกยตื้นที่หาดในรัฐอะแลสกา อีกหนึ่งปรากฏการณ์น่าสะพรึงซึ่งเป็นผลจากภาวะโลกร้อน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองแองคอราจ รัฐอะแลสกา ประเทศสหรัฐอเมริกา
เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ว่าสำนักงานสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐ ( เอ็นโอเอเอ ) ออกแถลงการณ์เรื่องการพบซากวอลรัสอย่างน้อย 35,000 ตัว ที่ลอยมาตายเกยตื้นริมชายหาดห่างไกลแห่งหนึ่งในรัฐอะแลสกา ถือเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจถึง 24 เท่า เนื่องจากเมื่อไม่กี่วันมานี้เจ้าหน้าที่พบซากวอลรัสในทะเลแถบนี้ราว 1,500 ตัวเท่านั้น
ขณะที่สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ ( ยูเอสจีเอส ) วิเคราะห์ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เป็นผลจากวิกฤตการณ์ภาวะโลกร้อน
ซึ่งรุนแรงขึ้นอย่างมากในช่วง 6-8 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ธารน้ำแข็งในบริเวณทางเหนือสุดของทะเลชุกชี ซึ่งอยู่ในน่านน้ำของสหรัฐและรัสเซียละลายอย่างรวดเร็ว สร้างความเดือดร้อนให้กับสัตว์ขั้วโลกจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นวอลรัสหรือหมีขั้วโลก ที่ต้องการธารน้ำแข็งไว้เป็นที่อยู่อาศัย และวาฬสีเทาซึ่งหายสาบสูญไปจากพื้นที่ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1990