‘ปูติน’กร้าว!ขู่ยึดเมืองหลวงยูเครน
ผู้นำรัสเซีย กร้าว! ขู่ยึดเมืองหลวงของยูเครน ขณะที่ ‘นาโต’ เตรียมตั้งกองกำลังส่วนหน้าตอบโต้เร็วรับมือวิกฤต
2 ก.ย.57 ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ขู่ว่า กองกำลังทหารของเขาสามารถยึดกรุงเคียฟของยูเครนได้ ภายในเวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์ ถ้าเขาต้องการ ขณะที่องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต ประกาศว่าจะตั้งกองกำลังตอบโต้เร็วขึ้นมาใหม่เพื่อทำหน้าที่เป็นกองกำลังส่วนหน้าในการรบ ซึ่งสามารถเข้าไปในยูเครนได้ภายใน 48 ชั่วโมง เพื่อรับมือกับความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะรุกรานยูเครน
หนังสือพิมพ์ลา รีพับบลิกา ของอิตาลี รายงานว่า ประธานาธิบดีปูตินได้ขู่เรื่องนี้ ในระหว่างการเจรจาว่าด้วยวิกฤตยูเครน กับนายโจเซ มานูเอล บาร์โรโซ ประธานกรรมาธิการยุโรป โดยบอกว่า ถ้าต้องการ เขาก็สามารถยึดเคียฟได้ภายในเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นการบอกเป็นนัยว่า ผลจะออกมาอย่างไร ถ้าสหภาพยุโรป หรือ อียู ขยายมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย
เฟเดริกา โมเกรินี รัฐมนตรีต่างประเทศหญิงของอิตาลี ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งจากอียู ให้ดำรงตำแหน่งประธานด้านนโยบายต่างประเทศคนใหม่ ได้เตือนว่า จะไม่มีการแก้ปัญหาด้วยการใช้กำลังแทรกแซงทางทหารต่อวิกฤติที่ใหญ่หลวงที่สุดในรอบหลายทศวรรษของยุโรปขณะนี้
นายอันเดอร์ส ฟอกห์ ราสมุสเซ่น เลขาธิการนาโต กล่าวว่า นาโตเผชิญวิกฤติหลากหลายที่ดาหน้าเข้ามาทั้งพรมแดนทางใต้และตะวันออก ที่อาจประทุได้ทุกเวลา ซึ่งทั้ง 28 ชาติสมาชิกได้รับการคาดหมายว่า จะเห็นชอบร่วมกันในการจัดตั้งกองกำลังส่วนหน้าตอบโต้เร็วขึ้นมาใหม่ในระหว่างการประชุมสุดยอดนาโต ในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์นี้ ที่เวลส์ ของสหราชอาณาจักร และเป็นไปได้ว่า จะมีทหารอังกฤษเข้าร่วมด้วย
การจัดตั้งกองกำลังใหม่นี้ เป็นส่วนหนึ่งของแพ็เกจมาตรการใหม่ ที่พันธมิตรนาโต เตรียมไว้เพื่อรับมิอกับวิกฤตทั้งในยูเครนและอิรัก ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงของนาโต ระบุว่า ทหารที่เขาร่วมในกองกำลังชุดนี้ จะมีฐานอยู่ที่ประเทศของตนเอง และจะมารวมตัวกันเมื่อจำเป็น นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ ที่ในที่ประชุมจะเห็นชอบในการสั่งสมอาวุธไว้ในยุโรปตะวันออก เพื่อรองรับการปฏิบัติการของกองกำลังส่วนหน้าตอบโต้เร็วในทันทีที่เดินทางไปถึง รวมถึงการเพิ่มการซ้อมรบด้วย
นาโต มีความคิดที่จะตั้งกองกำลังส่วนหน้าตอบโต้เร็ว ตั้งแต่กองกำลังของรัสเซียแทรกซึมเข้าไปในภูมิภาคไครเมียของยูเครน เมื่อเดือนมีนาคม ทำให้นาโตต้องเตรียมกองกำลังที่มีศักยภาพเอาไว้รับมือในกรณีที่เกิดวิกฤตแบบเดียวกันในดินแดนของพันธมิตรนาโต ที่จะมีกำลังรบตั้งแต่กลุ่มย่อย ๆ จนถึงระดับกองพัน จำนวนระหว่าง 3,000-5,000 นาย ที่มีทั้งกองกำลังทางอากาศทางทะเลและชุดปฏิบัติการพิเศษ
ก่อนหน้านี้ สมาชิกนาโตที่เป็นยุโรปตะวันออก รวมทั้งโปแลนด์ ได้ขอให้ประจำการทหารของนาโตเป็นการถาวรในดินแดนของพวกเขา เพราะวิตกว่าจะถูกรัสเซียรุกราน แต่สมาชิกนาโตไม่เห็นด้วยส่วนหนึ่งเพราะส่วนหนึ่งเพราะต้องมีค่าใช้จ่ายและไม่ต้องการละเมิดข้อตกลงกับรัสเซีย เมื่อปี 2540 ที่นาโตรับปากว่าจะไม่ประจำการกองกำลังรบในยุโรปตะวันออก
นอกจากนี้ ยังจะมีการเตรียมปรับปรุงศักยภาพด้านข่าวกรอง และขีดความสามารถในการรับมือกับ "สงครามไฮบริด" ที่รัสเซียใช้ในยูเครน ที่รวมถึงการบิดเบือนข้อมูล, ล้มล้างและโจมตีทางไซเบอร์