ประเด็นเรื่องการอุ้มบุญกลับมาเป็นที่ถกเถียงอีกครั้ง เมื่อชาวชาวออสเตรเลียคนหนึ่งตกเป็นจำเลยในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศลูกสาว ฝาแฝด ซึ่งเกิดจากแม่อุ้มบุญชาวไทย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 2 ก.ย.
อ้างรายงานของสถานีโทรทัศน์เอบีซี ว่าทางการออสเตรเลียประกาศดำเนินคดีทางกฎหมายกับชายคนหนึ่ง ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศกับบุตรสาวฝาแฝดซึ่งเกิดจากแม่อุ้มบุญชาวไทย และครอบครองสื่อลามกอนาจารเกี่ยวกับเด็กซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ทั้งนี้ การฟ้องร้องดำเนินคดีเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว แต่เรื่องราวเพิ่งได้รับการเปิดเผยเป็นครั้งแรกเมื่อวันจันทร์
ผู้สื่อข่าวของเอบีซีสัมภาษณ์หญิงสาวชาวไทยนาม "อร" เป็นชาว จ.เพชรบูรณ์
เปิดเผยว่าได้รับการติดต่อจากจากสามีภรรยาคู่นี้ ซึ่งมาขอร้องว่าเพิ่งแต่งงานกันและต้องการมีบุตรมาก จึงต้องการความช่วยเหลือจากเธอ พร้อมเสนอค่าจ้างให้ 170,000 บาท เธอจึงตกลงปลงใจรับจ้างตั้งครรภ์ให้ โดยใช้ไข่ของเธอผสมกับอสุจิของชายชาวออสเตรเลีย ทว่าหลังคลอดเด็กทั้งคู่มีอาการผิดปกติทั้งที่หัวใจและปอด อย่างไรก็ตาม สามีภรรยารายนี้นำตัวเด็กทั้งสองคนกลับออสเตรเลีย ขณะที่หนูน้อยมีอายุราว 4-5 เดือนเท่านั้น
อรกล่าวด้วยว่า เธอได้รับแจ้งเรื่องการฟ้องร้องดำเนินคดีกับชาวชาวออสเตรเลียรายนี้เมื่อ เดือน มิ.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งเธอรู้สึกช็อก และเสียใจอย่างมาก
หากเป็นไปได้เธอต้องการนำหนูน้อยกลับมาดูแลเอง ขณะที่สำนวนคดีของอัยการเผยรายละเอียดเพิ่มเติมว่า ผู้ต้องหาเป็นชายว่างงาน มีอารมณ์รุนแรง และประสบปัญหาในการใช้ชีวิตแต่งงาน ทั้งนี้ เรื่องราวที่เกิดขึ้นกระตุ้นให้รัฐบาลออสเตรเลียกลับมาให้ความสนใจกับ กรณีการรับจ้างอุ้มบุญอีกครั้ง ซึ่งคู่รักชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่ยังคงเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายหลัก ขณะที่รัฐบาลไทยพยายามกวาดล้างเครือข่ายอุ้มบุญอย่างแข็งขัน.