สื่อท้องถิ่นจีนรายงานว่า ชายติดเชื้อเอชไอวีสองคนและเพื่อนร่างกายปกติอีกคนหนึ่งถูกสายการบินสปริงแอร์ไลน์ของจีนห้ามไม่ให้ขึ้นเครื่องบินที่สนามบินเสิ่นหยาง มณฑลเหลียงหนิง โดยทั้งสามคนได้ยื่นฟ้องสายการบินข้อหาเลือกปฏิบัติ ซึ่งศาลเมืองเฉิ่นหยางรับคำฟ้องของพวกเขาแล้วในวันศุกร์ที่ผ่านมา
กลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนเผยว่า กรณีดังกล่าวได้สร้างรอยด่างในใจของผู้ติดเชื้อเอชไอวีในประเทศจีนอีกครั้ง
ด้านประธานสายการบิน เผยว่า ทางสายการบินไม่มีนโยบายแบ่งแยกผู้โดยสารแต่อย่างใด พร้อมประณามพนักงานที่วิตกกังวลมากเกินไป นอกจากนั้นยังกล่าวว่า บริษัทของตนยินยอมให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีขึ้นเครื่องบิน หากผู้ป่วยไม่แสดงออกมากจนเกินไป เพราะนั่นจะทำให้ผู้โดยสารคนอื่นๆหวาดกลัว
ในเว็บไซต์ของสายการบินสปริงแอร์ไลน์ระบุว่า มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธผู้โดยสารที่ติดเชื้อ แต่หลังจากที่เกิดเหตุดังกล่าว ทางสายการบินก็ไม่เคยปฏิเสธผู้โดยสารที่ติดเชื้อเลย
ในรายงานระบุว่า ชายสามคนนี้เตรียมตัวเดินทางไปยังเมืองฉือเจียจวง มณฑลเหอเป่ย ในวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา
แต่ทันทีที่เจ้าหน้าที่ทราบว่าพวกเขาติดเชื้อเอชไอวีก็ปฏิเสธที่จะให้พวกเขาขึ้นเครื่องบินทันที ผู้เสียหายทั้งสามคนเรียกร้องค่าทำขวัญ 48,999 หยวนหรือกว่า 250,000 บาท พร้อมกับคำขอโทษจากสายการบิน
อย่างไรก็ตามเมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลจีนเสนอให้มีคำสั่งห้ามผู้ติดเชื้อเอชไอวีเข้าใช้บริการห้องอาบน้ำรวมสาธารณะ แต่ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบอย่างกว้างขวาง ขณะที่เมื่อปี 2010 จีนได้ยกเลิกคำสั่งห้ามไม่ให้ชาวต่างชาติที่ติดเชื้อเอชไอวีเข้าประเทศ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
