สำนักข่าวต่างประเทศยังเกาะติดการระบาดของเชื้อไวรัสมรณะอีโบลาในหลายประเทศทั่วโลกอย่างใกล้ชิด
โดยสถานการณ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทางการเคนยาสั่งปิดพรมแดนที่ติดกับกินี ไลบีเรียและเซียร์ราลีโอน ประเทศที่มีการระบาดอย่างหนัก ป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสอีโบลา หลังมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสมรณะทั่วแอฟริกาตะวันตกแล้ว 1,145 ราย
โดยรัฐบาลเคนยา ระบุว่า พรมแดนเคนยาที่ติดกับกินี ไลบีเรียและเซียร์ราลีโอน
ถูกสั่งปิดทั้งหมด ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา ประชาชนจากทั้ง 3 ประเทศจะสามารถเดินทางผ่านพรมแดนเข้ามาในเคนยาได้ ยกเว้นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเคนยาที่เดินทางกลับจาก 3 ประเทศดังกล่าว
ขณะที่สายการบินเคนยา แอร์เวย์ส สายการบินแห่งชาติของเคนยา และสายการบินท้องถิ่นแกมเบียเบิร์ด
ประกาศยุติให้บริการเที่ยวบินไปยังกรุงมอนโรเวีย เมืองหลวงของไลบีเรีย รวมถึงกรุงฟรีทาวน์ เมืองหลวงของเซียร์ราลีโอน ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสมรณะด้วย หลังจากก่อนหน้านี้สายการบินโคเรียน แอร์ ของเกาหลีใต้ เพิ่งประกาศยกเลิกเที่ยวบินไปยังกรุงไนโรบีของเคนยาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพราะความกังวลต่อเชื้ออีโบลา
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเคนยายืนยันผลการตรวจผู้ต้องสงสัยว่า อาจติดเชื้ออีโบลาจำนวน 4 คนในเคนยา
ก่อนหน้านี้ว่าไม่พบการติดเชื้อแต่อย่างใด หลังข่าวดังกล่าวสร้างความหวาดกลัวว่าเชื้อมรณะที่ยังไม่มีหนทางรักษาชนิดนี้ จะลุกลามจากแอฟริกาตะวันตก ข้ามมายังแอฟริกาตะวันออก ขณะที่ทางการไลบีเรียขยายบริการศูนย์รักษาโรคไวรัสอีโบลาในกรุงมอนโรเวีย เพื่อรับมือกับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น
ด้านสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า ไนจีเรีย เซียร์ราลีโอน และไลบีเรีย ถอนตัวจากการแข่งขันโอลิมปิกเยาวชนฤดูร้อน 2014 หรือยูธโอลิมปิก
ที่เพิ่งมีพิธีเปิดที่เมืองหนานจิงของจีนไปเมื่อวันเสาร์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา โดยก่อนหน้านี้คณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือไอโอซี และคณะผู้จัดงานของจีน ประกาศเมื่อวันศุกร์ว่านักกีฬาจากประเทศที่มีเชื้ออีโบลาระบาดจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมกิจกรรมหมู่ และการแข่งขันที่มีการปะทะกับคู่แข่งขัน ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ร่วมมหกรรมกีฬาครั้งนี้ทั้งหมด
ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเตือนว่า ไวรัสอีโบลาระบาดในแอฟริกาตะวันตกอาจกินเวลานานไปอีก 6 เดือน ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 1,145 คน ทั้งในไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน กินี และไนจีเรีย ซึ่งระบาดรุนแรงเป็นประวัติการณ์เกินกว่าที่องค์การอนามัยโลกประเมินไว้ก่อนหน้านี้