ศุลกากรสหรัฐร่วมกับเจ้าหน้าที่ด่านชายแดนที่ท่าอากาศยานนานาชาติลอสแองเจลิส ยึดหอยทากยักษ์แอฟริกามีชีวิต 67 ตัว ซึ่งเป็นอาหารราคาแพงและนิยมกันมากในแอฟริกาตะวันตก
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครลอสแองเจลิสประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่15ก.ค.ว่าน.ส.ลีฮาร์ตี้ โฆษกหญิงของศุลกากรสหรัฐแถลงว่า
ศุลกากรสหรัฐร่วมกับเจ้าหน้าที่ด่านชายแดนที่ท่าอากาศยานนานาชาติลอสแองเจลิส สามารถยึดหอยทากยักษ์แอฟริกามีชีวิตจำนวน67ตัวซึ่งเป็นสัตว์ห้ามนำเข้ามาในประเทศสหรัฐอเมริกาแต่หอยทากยักษ์แอฟริกาเหล่านี้เดินทางมาจากประเทศไนจีเรีย เพื่อเตรียมจะส่งให้กับบุคคลผู้หนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย
หอยทากยักษ์แอฟริกาเป็นหนึ่งในสัตว์จำพวกหอยที่มีขนาดใหญ่สามารถโตเต็มที่และยาวถึง8นิ้วอาศัยอยู่ในทวีปแอฟริกาและมีชีวิตอยู่ได้ 10ปี
ถูกนำมาปรุงเป็นอาหารและราคาแพงเนื่องจากได้รับความนิยมอย่างสูงในแอฟริกาตะวันตก1ตัวตกราคาประมาณ50ดอลลาร์สหรัฐ(ประมาณ1,600บาท)สำหรับมื้อค่ำ6คนในเมืองลากอสประเทศไนจีเรีย กระทรวงเกษตรสหรัฐได้ทำการเผาทำลายทิ้งหอยทากยักษ์แอฟริกา หลังจากตรวจพบซึ่งทางเจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นสัตว์ต้องห้ามนำเข้าในสหรัฐ เพราะอาจมีพยาธิที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์รวมทั้งยังสามารถทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้แล้วยังเป็นอันตรายต่อพืชผลทางเกษตรเพราะกินพืชผลได้ทุกอย่าง
ทางบุคคลที่หอยทากยักษ์เหล่านี้จะต้องถูกส่งไปแม้จะไม่ถูกลงโทษอะไรแต่เจ้าหน้าที่ก็กำลังสอบสวนว่าเหตุใดจึงมีการนำเข้ามาเป็นจำนวนมากเช่นนี้
แม้ว่าทางหน่วยศุลกากรสหรัฐอาจจะเคยพบ1-2ตัวที่หลุดรอดเข้ามาอยู่ในกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารโดยไม่ตั้งใจที่ท่าอากาศยานนานาชาติลอสแองเจลิสแต่นี่เป็นครั้งแรกที่มีการตรวจพบจำนวนมาก