สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ว่ากลุ่มมือปืนไม่ทราบฝ่ายและจำนวนที่แน่นอน โดยสารรถยนต์เป็นพาหนะบุกเข้าไปภายในอาคารพาณิชย์ 2 แห่งในย่านซายูเนาะห์ ทางตะวันออกของกรุงแบกแดด ในเวลาไล่เลี่ยกันเมื่อวันเสาร์ แล้วกราดยิงใส่ผู้ที่อยู่ภายในเสียชีวิตรวมกันอย่างน้อย 33 ศพ และได้รับบาดเจ็บอีก 18 คน ก่อนหลบหนีไปอย่างลอยนวล เบื้องต้นยังไม่มีใครออกมาแสดงตนว่าอยู่เบื้องหลัง ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบแรงจูงใจแน่ชัด แต่สันนิษฐานว่า อาคารทั้ง 2 หลังอาจเป็นซ่องโสเภณี
เหตุรุนแรงดังกล่าวเกิดขึ้นไล่เลี่ยกับที่นายนิไคไล มลาดินอฟ ทูตพิเศษของสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ประจำอิรัก เรียกร้องให้สมาชิกสภาของอิรักเจ้าร่วมการประชุม เพื่อลงมติเฟ้นหานายกรัฐมนตรีคนต่อไป และเร่งจัดตั้งรัฐบาลเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับประเทศ อีกทั้งยังจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับรัฐบาล ในการต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนต์ ( ไอเอสไอแอล ) ด้วย เนื่องจากยิ่งขาดรัฐบาลนานเท่าไหร่ อิรักก็จะยิ่งเผชิญกับความวุ่นวายนานมากขึ้นเท่านั้น