4 มิ.ย. 57 โฆษกสำนักงานความปลอดภัยการขนส่งออสเตรเลีย (เอทีเอสบี) ในฐานะหัวหน้าปฏิบัติการค้นหาเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ตามคำร้องขอของรัฐบาลมาเลเซีย เปิดเผยเมื่อว่า คณะทำงานฯ กำลังตรวจสอบคำบอกเล่าของนางแคเธอลีน ที สตรีอังกฤษที่อ้างว่าเห็นเครื่องบินลุกไหม้ในท้องฟ้าเหนือมหาสมุทรอินเดีย ขณะกำลังแล่นเรือยอทช์อยู่ใกล้อินโดนีเซีย ในคืนวันเดียวกับที่เครื่องบินสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ สูญหายพร้อมด้วยผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คน เมื่อวันที่ 8 มีนาคม และการระดมค้นหาทั้งผิวน้ำ และใต้น้ำลึกหลายพันเมตร ไม่พบร่องรอยใดๆ
นางที วัย 41 ปี เขียนบอกเล่าในฟอรัมครูซเซอร์ส ห้องสนทนาของผู้สนใจเรื่องการเดินเรือ และเป็นบริษัทที่เธอทำงานอยู่ ว่า
เห็นเครื่องบินลำหนึ่งกำลังลุกไหม้เป็นสีส้มจัด และมีควันสีดำพวยพุ่งออกมาจากส่วนหาง ขณะที่เธอและสามีกำลังเดินทางจากเมืองโคชิ ประเทศอินเดีย มายังภูเก็ตของไทย ขณะนั้น มีเครื่องบินอีกสองลำบินผ่านสวนทางอยู่สูงขึ้นไป และคิดว่าหากเครื่องบินลำที่เธอเห็นไฟไหม้อยู่ เครื่องบินลำอื่นก็น่าจะรายงานแจ้งเหตุ
นางที ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ ภูเก็ต กะเซ็ต เพิ่มเติมเมื่อวันจันทร์ว่า ตอนแรกเธอคิดว่าเป็นดาวตก หรืออาจเป็นจินตนาการของเธอเอง
แต่เมื่อขึ้นฝั่งที่ภูเก็ต ทุกคนต่างพูดถึงเครื่องบินโบอิ้งที่สูญหาย และซักถามเธอกับสามีว่าพบเห็นอะไรบ้างไหม ขณะนั้นเธอมีปัญหาในครอบครัว ประกอบกับไม่มั่นใจกับสิ่งตัวเองเห็น จึงเพิกเฉย แต่หลังจากตรวจสอบข้อมูลจีพีเอสย้อนหลังเมื่อเร็วๆ นี้ จึงมั่นใจว่าเธออยู่ถูกที่ถูกเวลา จึงตัดสินใจส่งรายงานพร้อมข้อมูลการเดินทางทั้งหมดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เธอหวังว่าการออกมาให้ข้อมูล อาจช่วยให้ความพยายามค้นหาตีวงแคบลง และพบเครื่องบินเร็วขึ้น พร้อมแสดงความเสียใจที่เธอน่าจะมีความมั่นใจกับสิ่งที่ตนเองเห็น และออกมาทำอะไรบางอย่างเร็วกว่านี้
ทั้งนี้ พิกัดสุดท้ายของเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ตามข้อมูลเรดาร์ทหาร อยู่ทางตะวันตกของ จ.ภูเก็ต แต่ทีมค้นหานานาชาติมุ่งค้นหาไกลออกไปทางใต้หลายพันกิโลเมตรตามข้อมูลสื่อสารสุดท้ายระหว่างเครื่องบินกับดาวเทียมอินมาร์แซต